ทางการอิรักประกาศว่า กลุ่มไอเอสตัดสินใจระเบิดทำลายมัสยิดหลวง al-Nuri ฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสใจกลางเมืองโมซุลของอิรัก เมื่อเวลา 21.35 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ในวันที่ 21 มิถุนายน หลังจากกองกำลังของอิรักปฏิบัติการรุกคืบเพื่อยึดพื้นที่นี้จากกลุ่มไอเอสมาตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา
มัสยิดหลวง al-Nuri คือสถานที่เชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญของกลุ่มไอเอส เพราะ อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี (Abu Bakr al-Baghdadi) เคยประกาศแต่งตั้งตัวเองเป็นคอลีฟะห์ หรือผู้นำกลุ่มอิสลามเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และยังเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มไอเอสในใจกลางเมืองโมซุล
อิรักจึงประกาศว่าการระเบิดฐานที่มั่นของตัวเองนั้นคือการประกาศความพ่ายแพ้ของกลุ่มไอเอส ขณะที่กลุ่มไอเอสโต้กลับว่ากลุ่มนักรบของตนนั้นไม่ได้ระเบิดทำลายมัสยิดแห่งนี้ แต่การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ต่างหากที่ระเบิดทำลายมัสยิดหลังนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า หากโมซุลแตกเราจะเห็นการก่อเหตุรุนแรงมากขึ้นในแถบบ้านเรา และเอเชียกลาง
สัปดาห์ที่แล้วรัสเซียเพิ่งประกาศว่าการโจมตีทางอากาศของตนในซีเรียอาจได้สังหารผู้นำกลุ่มไอเอสไปแล้ว และสุดท้ายเพิ่งออกมาบอกว่าไม่สามารถยืนยันได้ ขณะที่ฟากสหรัฐฯ และอิรักเชื่อว่าแกนนำกลุ่มไอเอสซ่อนตัวอยู่บริเวณชายแดนอิรักและซีเรีย
Photo: Ahmad al-Rubaye/AFP
มัสยิดในโมซุล สถานที่เชิงสัญลักษณ์และฐานที่มั่นที่สำคัญของกลุ่มไอเอส
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี แกนนำกลุ่มไอเอสประกาศสถาปนาอาณาจักรคอลีฟะห์ที่มัสยิดแห่งนี้ โดยอาณาจักรที่กลุ่มไอเอสกล่าวอ้างนั้นครอบคลุมบริเวณบางส่วนในซีเรียและอิรัก เขายังใช้สถานที่นี้ประกาศตนเป็นคอลีฟะห์ หรือผู้นำของชาวมุสลิมทุกคน ซึ่งเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้กล่าวต่อผู้ตามของเขา และเป็นครั้งเดียวของชาวโลกเช่นกันที่ได้เห็นเทปบันทึกการประกาศตนของเขาในครั้งนั้น
โดยกลุ่มไอเอสได้ปักธงดำสัญลักษณ์ของกลุ่มไอเอสที่มัสยิดแห่งนี้ เพื่อประกาศพรมแดนของกลุ่มตัวเอง
นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิรักต้องการยึดพื้นที่นี้จากกลุ่มไอเอสให้ได้ เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มไอเอสแล้ว พื้นที่นี้ยังเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของพวกเขาในใจกลางเมืองโมซุล เมืองใหญ่อันดับสองของอิรัก หลังจากไอเอสเริ่มพ่ายแพ้ในซีเรียเมื่อปีที่แล้ว
โดยภาพคลิปวิดีโอเปิดเผยให้เห็นซากปรักหักพังของมัสยิดหลวง al-Nuri และหอคอยอัล-ฮัดบา (Al-Hadba) ที่มีอายุมากกว่า 800 ปี ที่ถูกระเบิดอย่างราบคาบ ด้านอาจารย์อาทิตย์ ทองอินทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายและตะวันออกกลางกล่าวว่า การที่ฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสในโมซุลแตก จะส่งผลให้กลุ่มนักรบกลับไปก่อเหตุในบ้านเกิด อย่างเช่น แถบเอเชียกลาง หรือแถบบ้านเราอย่างเอเชียจะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งขณะนี้ฟิลิปปินส์กำลังถูกท้าทายด้วยกลุ่มก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
อิรักประกาศว่านี่คือการประกาศความพ่ายแพ้ของกลุ่มไอเอส
ก่อนหน้านี้ที่มัสยิดหลวง al-Nuri จะถูกระเบิด กองกำลังของอิรักและสหรัฐฯ ตัดสินใจจะยึดคืนพื้นที่นี้จากกลุ่มไอเอสให้ได้ และตั้งใจจะให้ชาวอิรักได้กลับเข้าไปยังมัสยิดแห่งนี้อีกหลังสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอดในวันที่ 25 ถึง 26 มิถุนายน ที่จะถึงนี้
อับดุล กานี อัล-อัซซาดี (Abdul Ghani al-Assadi) ผู้บังคับบัญชาการปราบก่อการร้ายของอิรักประกาศว่า “เราจะไม่พยายามไล่พวกเขาออกจากบริเวณนี้อีกต่อไป แต่เราจะสังหารพวกเขาให้ได้ทุกคนภายใน 2-3 วันนี้”
โดยช่วงเวลาที่กองกำลังของอิรักพยายามจะล้อมกลุ่มไอเอสและรุกคืบเข้าไปในมัสยิด พวกเขาได้เฝ้าสังเกตพื้นที่นี้มาเป็นเวลาหลายวัน และพบว่ากลุ่มนักรบไอเอสระเบิดทำลายพื้นที่นี้อย่างต่อเนื่อง
ทางการอิรักและสหรัฐฯ ต่างออกมาเปิดเผยว่า กลุ่มนักรบไอเอสตัดสินใจลงมือระเบิดมัสยิดแห่งนี้ หลังจากพบว่ากองกำลังของอิรักและสหรัฐฯ รุกคืบเข้าพื้นที่นี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยอับดุล กานี อัล-อัซซาดี ผู้บังคับบัญชาการปราบก่อการร้ายของอิรักเปิดเผยว่า “ผมไม่คิดว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นมัสยิดแห่งนี้ และเหตุการณ์นี้สะท้อนว่ากลุ่มไอเอสนั้นโหดร้าย ไร้หัวใจ และมีอุดมการณ์ที่ไม่ควรจะได้รับการยอมรับในโลกนี้”
ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี (Haider al-Abadi) ประธานาธิบดีของอิรักมองว่า การตัดสินใจระเบิดมัสยิดครั้งนี้ของกลุ่มไอเอสเป็นการประกาศความพ่ายแพ้อย่างเป็นทางการของกลุ่มไอเอส เพราะสะท้อนว่าพวกเขาไม่สามารถรักษาฐานที่มั่นที่สำคัญที่สุดของพวกเขาไว้ได้
อย่างไรก็ตามสำนักข่าว Amaq ของกลุ่มไอเอสตอบโต้ว่าเครื่องบินของสหรัฐฯ ต่างหากที่ยิงทำลายมัสยิดแห่งนี้ แต่สหรัฐฯ ปฏิเสธว่าสหรัฐฯ ไม่ได้โจมตีพื้นที่ดังกล่าว และการกล่าวอ้างครั้งนี้ผิดทั้งหมด
ชาวอิรักจำนวนมากต่างออกมาแสดงความโกรธผ่านสื่อออนไลน์ต่อการระเบิดมัสยิด สถานที่สำคัญของพวกเขาในครั้งนี้
Photo: KARIM SAHIB/AFP
การเสียชีวิตของ อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี แกนนำไอเอสที่ยังเป็นปริศนา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการรัสเซียเพิ่งออกมาประกาศว่า การโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรียอาจได้สังหาร อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี แกนนำคนสำคัญของกลุ่มไอเอสไปแล้ว แต่สุดท้ายออกมาบอกว่าไม่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานหลายครั้งก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเสียชีวิตของเขาที่ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด
ขณะที่ฟากกองทัพสหรัฐฯ และอิรักต่างออกมาให้ข้อมูลว่า อาบู บักร์ อัล-บักห์ดาดี หลบหนีออกจากเมืองโมซุล และเชื่อว่าเขาซ่อนตัวในบริเวณชายแดนระหว่างอิรักและซีเรีย
ก่อนหน้านี้การต่อสู้ของกลุ่มไอเอสได้ทำลายสถานที่ทางวัฒนธรรมในซีเรียและอิรักไปหลายแห่ง ทั้งเมืองโบราณของอิรักอย่างเมืองนิมรุด พิพิธภัณฑ์ในเมืองโมซุล
และเมืองพัลไมราของซีเรีย โดยกลุ่มไอเอสอ้างว่าเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของตน
คริสโตเฟอร์ โจนส์ (Christopher Jones) นักประวัติศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบียให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร National Geographic ต่อการทำลายสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ว่า “พวกเขามองว่าตัวเองกำลังสร้างประวัติศาสตร์ใหม่”
แม้ว่าอิรักจะประกาศว่านี่คือการประกาศความพ่ายแพ้อย่างเป็นทางการของกลุ่มไอเอส หลังจากกลุ่มไอเอสได้ระเบิดทำลายมัสยิดหลวง al-Nuri ฐานที่มั่นของตน อย่างไรก็ตาม กลุ่มไอเอสยังสามารถยึดครองพื้นที่ฝั่งตะวันตกและทางใต้ของเมืองโมซุล และพื้นที่บางส่วนในซีเรียได้อยู่
อ้างอิง: