หลังจากที่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสมือ 5 ของโลกชาวสวิตเซอร์แลนด์ ตัดสินใจไม่ลงแข่งขัน โนวัค ยอโควิช พลาดท่าตกรอบ 8 คนสุดท้าย และโดมินิก ธีม นักเทนนิสดาวรุ่งวัย 23 ปี มือ  6 ของโลกจากออสเตรีย พ่ายให้กับราฟาเอล นาดาล ไป 3 เซตรวด ทำให้เส้นทางสู่แชมป์เฟรนช์ โอเพ่น สมัยที่ 10 ของนาดาลดูค่อนข้างสดใส เหลือเพียงแค่สตานิสลาส วาวรินกา มือ 3 ของโลกที่ผ่านเข้าสู่รอบชิง หลังชนะแอนดี เมอร์เรย์ นักเทนนิสมือหนึ่งของโลกจากอังกฤษ ที่เป็นปราการด่านสุดท้ายของนาดาล

     โดยรอบชิงในปีนี้เป็นการพบกันของสองนักเทนนิสจอมพลังระหว่าง ราฟาเอล นาดาล ราชาคอร์ตดินเจ้าของแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น 9 สมัย มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้ กับสตานิสลาส วาวรินกา นักเทนนิสมือ 3 ของโลก และอดีตแชมป์รายการนี้ในปี 2015

Photo: CHRISTOPHE SIMON, AFP

นาดาลกับคอร์ตดินที่เขาคุ้นเคย

     นาดาลโชว์ฟอร์มราชาคอร์ตดินคนเดิมอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ติดกัน 3 รายการ ตั้งแต่คว้าแชมป์มอนติคาร์โล มาสเตอร์ส เดือนเมษายน บาร์เซโลนา โอเพ่น และคว้าแชมป์มาดริด โอเพ่น ด้วยการชนะโดมินิก ธีมในรอบชิงชนะเลิศ และทำสถิติชนะติดต่อกัน 15 แมตช์ (นับเฉพาะคอร์ตดินในปีนี้)  ก่อนที่จะพลาดให้กับโดมินิก เธียม ตกรอบก่อนรอบรองชนะเลิศอิตาเลียน โอเพ่น จนเมื่อคืนวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา สามารถล้างแค้นโดมินิก ธีม ได้สำเร็จ โดยเอาชนะธีมไป 3 เซตรวด ในรอบรองชนะเลิศ กลับมาเข้าชิงแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ได้อีกครั้ง

     ที่ผ่านมาเขามีปัญหาอาการบาดเจ็บจนฟอร์มตกไปเกือบ 3 ปี ก่อนที่จะกลับมาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญที่สอง ประเภทคู่ได้สำเร็จในปี 2016 ส่วนช่วงต้นปีที่ผ่านมาเขาเข้าชิงแชมป์แกรนด์สแลมครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่ออสเตรเลียน โอเพ่น แต่ดันพ่ายให้กับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จอมเก๋าจากสวิตเซอร์แลนด์ที่คว้าแชมป์ไปครอง

Photo: FRANCOIS XAVIER, AFP

วาวรินกา มือ 3 ของโลกกับการล้มมือหนึ่งของโลก

     ฝั่ง สตานิสลาส วาวรินกา นักเทนนิสมือ 3 ของโลก และอดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2015 ออกสตาร์ทปีนี้ด้วยการเข้าสู่รอบรองออสเตรเลียน โอเพ่น แต่พ่ายให้กับเพื่อนร่วมชาติ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ไป 3-6 และตกรอบแรกเมื่อพ่ายดาเมียร์ ซุมฮูร์ มือ 77 ของโลก จากบอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีนา ในรายการดูไบ ดิวตี้ ฟรี เทนนิส แชมเปียนชิปส์ ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะคว้าแชมป์แรกของปีที่เจนีวา โอเพ่น เมื่อคืนวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาก็สามารถเอาชนะแอนดี เมอร์เรย์ นักเทนนิสมือหนึ่งของโลกได้สำเร็จ โดยต้องเล่นกันถึง 5 เซต ก่อนจะเอาชนะมือหนึ่งของโลกไปได้ 3-2 เซต

แชมป์ 9 สมัย พบแชมป์ปี 2015

     ราฟาเอล นาดาล ค่อนข้างได้เปรียบทั้งสภาพร่างกายและสถิติ โดยทั้งคู่พบกันมาแล้ว 18 ครั้ง ซึ่งเป็นฝ่ายนาดาลที่กวาดชัยชนะไปได้ถึง 15 ครั้ง โดยเกมล่าสุดที่ทั้งคู่พบกันคือ มอนติคาร์โล มาสเตอร์ส เดือนเมษายนเมื่อปี 2016 ในรอบ 8 คนสุดท้าย ซึ่งครั้งนั้นนาดาลเอาชนะไปได้ 2 เซตรวด 6-1 และ 6-4

     ขณะที่สภาพร่างกายของนาดาลปีนี้ไม่มีอาการบาดเจ็บมารบกวนเหมือนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนสนามคอร์ตดินได้อีกครั้ง และคว้าแชมป์ไปแล้ว 3 ใน 4 รายการที่ลงแข่งขัน รวมถึงสามารถเอาชนะดาวรุ่งที่อายุต่างกันถึง 8 ปี อย่างโดมินิก ธีม ได้ในรอบรองชนะเลิศอีกด้วย

     ส่วนวาวรินกาก็โชว์ฟอร์มเก่งเอาชนะแอนดี เมอร์เรย์ ที่ปีนี้สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้หลังจากที่ฟอร์มตกไปช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยสื่อต่างประเทศยกย่องลูกหนักของวาวรินกาที่ปราบเมอร์เรย์ได้สำเร็จ ด้วยสถิติตี Winners ได้ 87 จริง และเสีย Unforced Errors ไป  77 ครั้ง ขณะที่เมอร์เรย์ได้ Winners และ Unforced Errors เท่ากันที่ 36 ครั้ง

     ทำให้เกมนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้งนาดาลและวาวรินกาต่างก็เป็นนักเทนนิสที่มีพละกำลังในการเล่นทั้งคู่ โดยวาวรินกาได้เปรียบในเรื่องความแข็งแกร่งและการตีลูกแรง ทำให้คู่แข่งต้องวิ่งไกลกว่าเพื่อตอบโต้ ขณะที่นาดาลก็มีพละกำลังและความเร็วในการตอบโต้ เกมนี้จึงน่าจะเป็นการต่อสู้ที่หนักสำหรับทั้งคู่ โดยราฟาเอล นาดาล กับสตานิสลาส วาวรินกา จะลงสนามรอบชิงในวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายนนี้

อ้างอิง:

    – www.rolandgarros.com/en_FR/scores/stats/1601ms.html

    – www.rolandgarros.com/en_FR/scores/stats/1602ms.html 

    –  www.atpworldtour.com/en/players/fedex-head-2-head/rafael-nadal-vs-stan-wawrinka/N409/W367