วงการฟุตบอลอังกฤษจับตากลุ่มทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศซาอุดีอาระเบียจะเข้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดภายในวันนี้ หลังจากที่มีความพยายามสะสางปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ทำให้ติดขัดมาตั้งแต่ปีกลาย
ก่อนหน้านี้กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียได้ติดต่อขอซื้อกิจการของทีมนิวคาสเซิล โดยที่ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสโมสรปัจจุบันที่ซื้อสโมสรมาตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว ยินดีที่จะเปิดทางให้แต่การเจรจาถูกขัดขวางโดยพรีเมียร์ลีก ผ่านการกระบวนการตรวจสอบเกี่ยวกับเจ้าของสโมสร เนื่องจากซาอุดีอาระเบียมีประเด็นใหญ่ที่โลกจับตาทั้งเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชน และที่สำคัญคือการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการกีฬาระดับโลกมากมายรวมถึงพรีเมียร์ลีกด้วย
โดยประเด็นการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬานั้นไม่ใช่การละเมิดทั่วไปของผู้ประกอบการ แต่เป็นประเด็นทางการเมืองที่ซ่อนอยู่ในความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบียกับกาตาร์ ซึ่งประกอบการสถานีโทรทัศน์และการซื้อขายลิขสิทธิ์กีฬาระดับโลกในนามช่อง beIN SPORTS โดยหลังเกิดความขัดแย้งขึ้นได้มีผู้ประกอบการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ใช้ชื่อว่า beOUTQ ซึ่งละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดและขยายฐานไปทั่วตะวันออกกลาง ที่ทางกาตาร์ตรวจสอบแล้วมีต้นตออยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย แต่ไม่มีการตอบสนองต่อคำร้องขอให้ดำเนินการทางกฎหมายจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย และยังมีการแบน beIN SPORTS มาเป็นระยะเวลา 4 ปี
เรื่องนี้ทำให้พรีเมียร์ลีกต้องแทรกแซงเนื่องจาก beIN SPORTS เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในหลายประเทศทั่วโลก และการปล่อยให้ประเทศที่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเข้ามาเทกโอเวอร์กิจการสโมสรภายในประเทศจะเป็นที่ครหาอย่างมาก ไม่นับประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการที่ประชาคมโลกต่างจับตาซาอุดีอาระเบียที่พยายามใช้ซอฟต์พาวเวอร์อย่างเกมกีฬาในการ ‘ฟอกขาว’ ภาพลักษณ์ของประเทศด้วย
อย่างไรก็ดี จากการที่ซาอุดีอาระเบียได้มีคำสั่งยกเลิกแบน beIN SPORTS เป็นที่เรียบร้อยทำให้พรีเมียร์ลีกพร้อมเปิดทางให้ดำเนินการเจรจากับนิวคาสเซิลต่อได้ ซึ่งแม้การเจรจาจะชะงักตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีกลาย แต่ข้อเสนอจากตะวันออกกลางยังคงอยู่เหมือนเดิม และคาดว่าพรีเมียร์ลีกจะมีการประกาศข่าวการเทกโอเวอร์ของนิวคาสเซิลภายในวันนี้
ทั้งนี้หากนิวคาสเซิลมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของเป็นกลุ่มทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศซาอุดีอาระเบียจริง จะเปลี่ยนสถานะของสโมสรให้กลายเป็นทีมที่ร่ำรวยที่สุดของโลกไม่ต่างจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ได้รับการสนับสนุนจากอาบูดาบีและกาตาร์ตามลำดับ ท่ามกลางความยินดีของแฟน ‘แม็กไพส์’ ที่อึดอัดใจกับความตกต่ำของสโมสรตลอดระยะเวลา 14 ปีที่เจ้าของปัจจุบันบริหารโดยแทบไม่มีการสนับสนุนทีมเลยแม้แต่น้อย
อ้างอิง:
- https://www.thetimes.co.uk/article/saudi-takeover-of-newcastle-united-likely-to-be-agreed-in-next-24-hours-0vbc3pkd6
- https://www.thetimes.co.uk/article/7fc85698-26a5-11ec-9d7f-240ccd0a3a50?shareToken=92e7d8d07fa3ece60d5d7b9f1e4e5457
- https://www.telegraph.co.uk/football/2021/10/06/newcastle-takeover-deal-back-saudi-buyers-clear-biggest-hurdle/