คณะรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์มีมติเห็นชอบในหลักการให้แก้ไขกฎหมายควบคุมอาวุธปืนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น หลังเกิดโศกนาฏกรรมโจมตีมัสยิดชาวมุสลิม 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 มี.ค.)
จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งนิวซีแลนด์ เปิดเผยในระหว่างแถล่งข่าวต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขกฎหมายควบคุมอาวุธปืน และคาดว่าจะประกาศรายละเอียดของกฎหมายใหม่ให้ประชาชนทราบได้ภายในวันที่ 25 มีนาคมนี้
ผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้คือ เบรนตัน ทาร์แรนต์ ชาวออสเตรเลีย วัย 28 ปี เป็นผู้ที่มีแนวคิดขวาจัด ต่อต้านผู้อพยพ เกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) และเชื่อในความเหนือกว่าของคนผิวขาว (White Supremacist) โดยจากข้อมูลต่างๆ ระบุว่าเขามีแรงจูงใจก่อเหตุมาจากเหตุการณ์สังหารหมู่ของ แอนเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก ชาวนอร์เวย์ ที่ใช้อาวุธปืนกราดยิงค่ายยุวชนพรรคแรงงานนอร์เวย์และวางระเบิดที่อาคารรัฐสภากรุงออสโล จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 70 ราย เมื่อปี 2011
“เราตัดสินใจในฐานะคณะรัฐมนตรี เรามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” อาร์เดิร์น กล่าว พร้อมกับยืนยันด้วยว่า ถึงแม้ผู้ก่อเหตุกราดยิงครั้งนี้จะไม่ใช่ชาวนิวซีแลนด์ แต่รัฐบาลก็ไม่นิ่งนอนใจ และเล็งเห็นถึงปัญหาของผู้สนับสนุนแนวคิดคนขาวสุดโต่งที่เชื่อว่าตนเองเหนือกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ
อาร์เดิร์นระบุว่า กฎหมายอาวุธปืนใหม่ซึ่งใช้เวลาร่าง 10 วัน จะทำให้ประเทศนิวซีแลนด์มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
ด้านตำรวจนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า อาวุธปืนที่ทาร์แรนต์ใช้มีการดัดแปลงเพื่อให้สามารถโจมตีผู้คนได้รุนแรงขึ้น โดยเวลานี้ทาร์แรนต์ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ และรอดำเนินคดีในชั้นศาล
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: