วันนี้ (30 ธันวาคม) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน แถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 โดยระบุว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว และเริ่มมีการจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง รวมถึงเฉลิมฉลองกันตามสถานที่จัดงานปีใหม่ ซึ่งอาจเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วขับ
จึงกำชับให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง โดยให้ปรับแผนการตั้งจุดตรวจด่านตรวจในบริเวณที่มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และดำเนินการอย่างเข้มข้นในการเรียกตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และขับขี่ยานพาหนะ รวมถึงให้ควบคุมดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการจำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี และการจำหน่ายในลักษณะเร่ขายในบริเวณสถานที่จัดงาน
นอกจากนี้ยังให้จังหวัดเข้มงวดเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ โดยเฉพาะกรณีผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปีที่ดื่มแล้วขับ ให้ขยายผลสอบสวนดำเนินคดีไปที่ต้นทาง ทั้งผู้ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้สนับสนุน และผู้ปกครองของผู้ขับขี่ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบเกี่ยวกับผลของการกระทำผิด และหากมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ให้ใช้บทลงโทษสูงสุดตามกฎหมาย
เพื่อให้ผู้ขับขี่เกรงกลัวและไม่กล้าฝ่าฝืนกฎหมาย ตลอดจนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามการกระทำผิดซ้ำ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติการกระทำผิดเกี่ยวกับการขับขี่รถขณะเมาสุรา หรือการกระทำที่อาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยทางถนน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนและสังคมโดยรวม ส่วนผู้ที่กระทำผิดที่มีภาวะติดสุรา ต้องส่งเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรม ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคุมประพฤติและผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับและอื่นๆ กว่า 4 แสนคนทั่วประเทศ สนับสนุนการปฏิบัติงานตามจุดบริการประชาชนทั่วประเทศ เน้นย้ำกรณีเด็กและเยาวชนเกิดอุบัติเหตุจากการดื่มสุรา ต้องดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายด้วย หรือยึดรถจักรยานยนต์หากเสี่ยงกระทำความผิด พร้อมเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน 4 ฐานความผิด โดยศาลจะมีคำสั่งคุมประพฤติ ประกอบด้วย การขับรถขณะเมาสุรา การขับรถโดยประมาท การขับรถซิ่ง และการขับเสพ โดยตั้งแต่วันที่ 27-29 ธันวาคม 2567 ดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 1,763 คดี และติดกำไล EM กับผู้กระทำผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราจำนวน 4 คน
สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการรณรงค์ ‘ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ’ เกิดอุบัติเหตุจำนวน 280 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 269 คน ผู้เสียชีวิต 47 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 38.57 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.21 และตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 19.29
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.98 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 82.14 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.36 ถนนใน อบต. หรือหมู่บ้าน ร้อยละ 31.07 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01-17.00 น. ร้อยละ 7.14 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 22.47
จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,778 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 50,882 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จังหวัดลพบุรีและสุราษฎร์ธานี (จังหวัดละ 10 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร (4 คน)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (วันที่ 27-29 ธันวาคม 2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 872 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 841 คน ผู้เสียชีวิตรวม 143 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็น 0) มี 19 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (35 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (32 คน) และจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (7 คน)