×

บทบาทใหม่ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ภายใต้ตำแหน่งผู้นำ 4 หัวโขน

30.10.2023
  • LOADING...
แพทองธาร ชินวัตร

HIGHLIGHTS

5 MIN READ
  • อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร กลายเป็น ‘หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเต็มตัว’ และเป็นบุตรสาวซึ่งเป็นทายาททางสายเลือดโดยตรงที่เจริญรอยตามบิดา ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เข้าสู่สนามการเมืองอย่างเต็มตัว
  • แม้ว่าแพทองธารจะยังไม่ออกปากชัดเจน แต่ทุกสิ่งที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ถนนทุกสาย ตำแหน่งทุกตำแหน่ง ณ ปัจจุบัน ปูทางเพื่อรอนายกรัฐมนตรีคนถัดไปที่มีชื่อว่า ‘แพทองธาร ชินวัตร’

นับจากนาทีนี้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร กลายเป็น ‘หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเต็มตัว’ และเป็นบุตรสาวซึ่งเป็นทายาททางสายเลือดโดยตรงที่เจริญรอยตามบิดา ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เข้าสู่สนามการเมืองอย่างเต็มตัว

 

 

หัวหน้าพรรคคือตัวแทนอย่างเป็นทางการของพรรคการเมือง หรืออีกนัยหนึ่งคือผู้ควบคุมกลไกการทำงานของพรรคทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมถึงอาจเป็นแหล่งทุนสำคัญของพรรคด้วย

 

นับตั้งแต่ที่พรรคไทยรักไทยก็ถูกยุบ และต่อมาก็คือพรรคพลังประชาชนถูกยุบ จนมาถึงปี 2550 ก่อกำเนิดพรรคเพื่อไทย และผ่านการเปลี่ยนผู้นำมาแล้วถึง 7 คน โดยล่าสุดหัวหน้าพรรคคนที่ 8 กลับมาอยู่ภายใต้การนำของตระกูลชินวัตรอีกครั้งหนึ่ง

 

ตระกูลชินวัตรที่ในแง่ของการก่อตั้งคือ ‘ผู้ให้กำเนิด’ แต่ในแง่ของผู้นำทางจิตวิญญาณ มีตัวแทนคนชินวัตรถึง 4 คนเข้ามาสังกัดพรรค และทะยานโลดแล่นไปยังจุดสูงสุดของวงการการเมืองไทยด้วยกันถึง 3 คน 

 

ทักษิณ ชินวัตร, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่างก็ผ่านตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วทั้งสิ้น ทำให้หลายฝ่ายเพ่งเล็งไปยังตัวแทนของตระกูลชินวัตรคนที่ 4 ว่าจะพุ่งไปสู่ยอดของพีระมิด ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ หรือไม่

 

เนื่องจากการเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคของแพทองธารเกิดขึ้นในช่วงที่พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้การเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี โดยแพ้ให้กับพรรคก้าวไกล ตกมาเป็นพรรคอันดับ 2 ด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 141 เสียง

 

แพทองธาร ชินวัตร บนเวที พรุ่งนี้เพื่อไทย: เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน

 

เริ่มปฐมบท หัวโขนที่ 1 

 

เสียงฮือฮาเกิดขึ้นทันทีเมื่อแพทองธารปรากฏตัวที่งาน ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย: เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน’ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 เพื่อรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย 

 

บุตรสาวคนเล็กของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ได้รับการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 2 สมัย ขึ้นกล่าวพร้อมเอ่ยถึงคุณพ่อให้สาธารณชนรับทราบว่า 

 

“ดิฉันค่อนข้างโชคดีที่ได้ใกล้ชิดกับคุณพ่อ เพราะช่วงที่เกิดมาเป็นช่วงที่คุณพ่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้วและมีเวลาให้มากกว่าพี่ๆ เมื่อท่านไปอยู่ต่างประเทศก็มีเวลาไปหาบ่อยๆ ทุกเดือนหรือแทบจะเดือนเว้นเดือน จึงบอกกับตัวเองว่า ความรู้และโอกาสที่มีมานั้นอยากเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อผลักดันคนรุ่นใหม่ให้มีโอกาส มีความหวัง และทำความฝันให้เป็นจริง”

 

แพทองธารกล่าวด้วยว่า “ในฐานะลูกของคุณพ่อ ไม่เคยลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมพี่น้องคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และท่านปรารถนาอย่างมากที่จะได้กลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง” 

 

ทักษิณ ชินวัตร โบกมือ

 

กระแสคนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยกลับมาลุกโชนอีกครั้ง แต่ยังคงมีคำถามถึงความชัดเจนว่า แพทองธารจะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่

 

แม้คำตอบ ณ เวลานั้นของแพทองธารคือ ขอตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด อย่างอื่นรอไว้ก่อน ให้เป็นเรื่องของอนาคตไป แต่ก็นับเป็นสัญญาณที่ปูทางรอวันที่แพทองธารจะได้เบ่งบาน พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ กลายเป็น ‘ไพ่เด็ดแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี’ อย่างที่พรรคเคยสร้างปรากฏการณ์ผลักดัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ซึ่งใช้เวลาเพียง 49 วัน

 

คนชูป้ายที่เป็นภาพของแพทองธาร ชินวัตร

 

5 เดือนพิสูจน์ตัวตน เพิ่มบทสถานะที่ 2

 

จากวันเปิดตัวเข้ามาทำงานกับพรรคเพื่อไทย กระทั่งช่วงต้นปี 2565 พรรคเพื่อไทยเพิ่มบทบาทให้แพทองธารจากการเข้าร่วมการประชุม สส. พรรค ในฐานะผู้สังเกตการณ์ 

 

อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยในขณะนั้น โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้บรรยากาศสดใส คุณอุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังเสียงของ สส. ในทุกภาค”

 

ก่อนจะมีกิจกรรมแรกที่นำโดยแพทองธาร จัดเวิร์กช็อปหัวข้อ ‘คิด-เปลี่ยน-โลก สร้างโลกที่ดีกว่าและแก้ปัญหาด้วยความคิดเชิงนวัตกรรม’ ระดมความคิดเพื่อนำไปปรับใช้แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค สส. และสมาชิกจำนวนมาก เข้ารับฟัง 

 

ต่อมากับกิจกรรมร่วมกับ สส.หญิงของพรรค เนื่องในวันสตรีสากล และอีกมากมายที่ทำให้แพทองธารเริ่มขยับเข้ามาอยู่ในพื้นที่สื่อ 

 

วันที่ 20 มีนาคม 2565 พรรคเพื่อไทยเพิ่มสถานะที่ 2 ให้แพทองธารทำหน้าที่ ‘หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย’ ตำแหน่งที่มีนิยามว่าเป็นการประสานความร่วมมือระหว่าง สส. เพื่อไทย กับประชาชนที่ไม่พร้อมเป็นสมาชิกพรรค ให้สามารถเข้าร่วมได้ในฐานะครอบครัวเพื่อไทย 

 

แต่เมื่อถามย้ำถึงตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แพทองธารระบุเพียงสั้นๆ ว่า “ต้องรอยุบสภาก่อน เดี๋ยวว่ากัน”

 

 

มอบสปอตไลต์ดวงใหม่ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

 

ความเคลื่อนไหวของทักษิณส่งผลกระทบต่อความชัดเจนของแพทองธารมากขึ้นเรื่อยๆ ในคลับเฮาส์ ‘CARE คิด เคลื่อน ไทย’ หลายครั้งที่มีการเอ่ยถึงแพทองธาร 

 

“อิ๊งมาหาผมที่สิงคโปร์ อิ๊งบอกว่า พ่อเราจะใช้เทคโนโลยีและทริกนิดหนึ่ง เราจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทยได้เท่าตัวเลย”

 

และบอกว่า “เด็กรุ่นใหม่เขาพูดเรื่องเทคโนโลยี ผมก็ว่าใช่ เป็นไปได้ ที่น้องอิ๊งมาปรึกษา เขาใช้ความคิดเด็กรุ่นใหม่ เทคโนโลยีต่างๆ ผมฟังแล้วเข้าท่า”

 

กระทั่งวันที่ 5 เมษายน 2566 พรรคเพื่อไทยเปิดปราศรัยใหญ่ คลี่รายละเอียดนโยบายชุดใหญ่ รวมถึงเผยโฉมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของพรรค ประกอบด้วย

 

  1. แพทองธาร ชินวัตร วัย 37 ปี
  2. เศรษฐา ทวีสิน วัย 60 ปี 
  3. ชัยเกษม นิติสิริ วัย 74 ปี

 

จากตำแหน่งเดิมที่พรรคมอบให้ เพิ่มความเข้มข้นไปอีกระดับด้วยการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แม้จะเป็น 1 ใน 3 รายชื่อ แต่ปรากฏการณ์ของยิ่งลักษณ์ยังตราตรึง นามสกุลชินวัตรก็เป็นตัวชูโรงให้สปอตไลต์ส่องมายังแพทองธารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 การเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 ถูกตีตกไป เพราะที่ประชุมรัฐสภามองว่า การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติ ทำให้เสนอชื่อซ้ำไม่ได้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงตกมาที่พรรคอันดับ 2 อย่างพรรคเพื่อไทย พร้อมโจทย์ที่ว่าจะหานายกรัฐมนตรีคนไหนไปเสนอ เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากรัฐสภาทั้งสภา 

 

การจะมีนายกรัฐมนตรีชื่อ แพทองธาร ชินวัตร ณ ขณะนั้นอาจมีข้อครหาถึงผลประโยชน์ทับซ้อนในกรณีการเดินทางกลับไทยของ ทักษิณ ชินวัตร เพื่อกลับมาเลี้ยงหลานและรับโทษที่มีอยู่ แม้แพทองธารจะออกมาให้สัมภาษณ์บ่อยครั้งว่า “การเดินทางกลับไทยของคุณพ่อไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย”

 

แต่โจทย์ใหญ่ที่ทำให้ต้องถอยคือด่านของครอบครัว โดยเฉพาะ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นมารดา ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้แพทองธารอายุมากกว่านี้ก่อน การกระโดดเข้าวงการการเมืองและนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในขณะนี้อาจจะยังไม่เหมาะ อยากให้รออีกสักหน่อย

 

 

นายกรัฐมนตรีเงา นายกรัฐมนตรีสองคน 

 

การเข้ามาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการถึงสองชุด 

 

1 คือ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้รัฐบาล ทำให้บทบาทของแพทองธารเด่นชัดขึ้นมาทันทีเมื่อต้องเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาล ศูนย์กลางของการบริหารประเทศ 

 

ภาพเดินคู่มาพร้อมกับ เศรษฐา ทวีสิน ใส่ชุดผ้าไทย ปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ ฟีดต่างๆ ตามโซเชียลมีเดียและจอโทรทัศน์ ดูไปดูมาก็ยิ่งคล้ายกับ นิยาม ‘นายกรัฐมนตรีเงา’ เข้าไปทุกที 

 

2 คือ แพทองธารได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค นโยบายใหญ่ นโยบายระดับชาติ เกือบทุกนโยบายเริ่มต้องมีชื่อ แพทองธาร ชินวัตร เข้ามาประกบ จนเกิดกระแสวิจารณ์ว่าเป็นเหมือนคณะรัฐมนตรีเงา คอยกำกับการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดปัจจุบัน 

 

แม้กระทั่งเศรษฐาเองยังหลุดปากแซวเมื่อออกงานคู่กับแพทองธารว่า “นายกรัฐมนตรีคนไหน มีสองคนนะ”

 

 

ผู้นำคนใหม่ พร้อมลบคำสบประมาทด้วยผลงาน

 

“จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทีมกรรมการบริหารชุดใหม่จะต้องทบทวนถอดบทเรียนจากการเลือกตั้ง เพื่อทำให้พรรคเพื่อไทยกลับไปเป็นพรรคอันดับหนึ่งอีกครั้ง”

 

นี่คือช่วงหนึ่งของการกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ของแพทองธาร เมื่อพรรคมีมติ 289 เสียงเลือก แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม น้ำเสียงอันทรงพลังและหนักแน่นสะท้อนไปถึงผู้ฟังอย่างชัดเจน ถึงความมุ่งมั่นที่จะลบคำสบประมาทด้วยผลงาน ความตั้งใจทำนโยบายที่สัญญากับประชาชนให้เป็นจริง 

 

โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ความศรัทธาที่หายไปในช่วงฉีก MOU กับพรรคก้าวไกล การจับมือกับพรรคสองลุงตั้งรัฐบาล รวมถึงมาตรฐานกระบวนการยุติธรรมและการคุมขังในโรงพยาบาลตำรวจของ ทักษิณ ชินวัตร

 

ล้วนเป็นสิ่งที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทยต้องเผชิญ 

 

แต่ส่วนผสมของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค รวมถึงคนดังบนโลกโซเชียลอย่าง จิราพร สินธุไพร ที่เข้ามาร่วมอย่างที่ ภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกว่า เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นกลางและคนรุ่นใหม่เข้ามาแสดงฝีมือ ทำให้อดมองไม่ได้ว่า การปรับทัพดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ครั้งนี้จะเป็นการเปิดศึกสู้กับพรรคก้าวไกลโดยตรง 

 

ต้องรุกโซเชียลมีเดียเหมือนอย่างที่ก้าวไกลทำแล้วประสบความสำเร็จ ดึงคะแนนที่เสียไปให้กลับมา

 

 

ถนนทุกสายมุ่งสู่นายกรัฐมนตรีคนถัดไป 

 

แม้ว่าแพทองธารจะยังไม่ออกปากชัดเจน แต่ทุกสิ่งที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ถนนทุกสาย ตำแหน่งทุกตำแหน่ง ณ ปัจจุบัน ปูทางเพื่อรอนายกรัฐมนตรีคนถัดไปที่มีชื่อว่า ‘แพทองธาร ชินวัตร’

 

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของพรรคคนปัจจุบัน ก็ยังกล่าวด้วยว่า แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้สบายๆ

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X