วันนี้ (15 ส.ค.) ที่รัฐสภาเกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ ส.ส. หลายคนได้หารือถึงอาคารรัฐสภาใหม่เกียกกาย ที่ยังพบข้อบกพร่องอยู่มาก
วีระกร คำประกอบ ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้หารือเรื่องระบบเสียงที่ทำให้มีสมาชิกต้องมีวิทยุทรานซิสเตอร์มาฟัง และไฟส่องสว่างในห้องประชุมก็น้อยกว่าเกณฑ์ ทำให้ง่วงนอน เบื่อหน่าย บันไดหนีไฟก็ไม่เห็นว่าอยู่ตรงไหน รวมถึงไม่มีไฟป้ายบอกบันไดหนีไฟ และไฟในห้องอาหารโดยในช่วงเย็นแทบจะมองไม่เห็นอาหาร
ขณะที่ วิรัตน์ วรศสิริน ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ได้หารือถึงห้องน้ำของอาคารรัฐสภาที่ไม่มีสายฉีดชำระ
“ทุกวันนี้ผมปวดก้นไปหมด เพราะใช้กระดาษชำระเช็ด ซึ่งสุภาพบุรุษมีสรีระที่แตกต่างจากสุภาพสตรี ทำให้เกิดความยากลำบากขณะทำธุระส่วนตัว ผมต้องเดินแบบกระมิดกระเมี้ยน”
ทั้งนี้ภายหลังจากที่มี ส.ส. ลุกขึ้นอภิปรายแสดงความเห็นกรณีความไม่พร้อมของอาคารรัฐสภา
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมาตรวจความเรียบร้อยบริเวณห้องน้ำชายชั้น 1 และห้องอาหาร พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า สถานที่ยังไม่พร้อม 100% เพราะยังสร้างไม่เสร็จ และห้องประชุมก็มายืมของทางวุฒิสภาใช้ แต่ที่สำคัญห้องประชุมมีเครื่องลงคะแนนพร้อมใช้
ทั้งนี้อุปสรรคหรืออะไรก็ตามมีปัญหา อย่านำมาเป็นเงื่อนไขของการทำงาน ทำให้ทำงานไม่ได้หรือทำงานช้า เพราะในสายตาประชาชนเขาไม่ได้คิดแบบนั้น เขามองว่าที่แห่งนี้สบายที่สุด ทั้งนี้ความไม่สะดวกบางเรื่องก็เข้าใจได้ อย่างเรื่องห้องน้ำก็มีคนใช้เยอะ ต้องช่วยกันดูแล แต่การมาเข้าห้องประชุมไม่ทัน เนื่องจากปัญหาการสื่อสาร ต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องการก่อสร้างที่ไปต่อเติมทันทีไม่ได้ เนื่องจากยังสร้างไม่เสร็จ โดยขอร้องให้สมาชิกอยู่ใกล้ห้องประชุม เพราะหน้าที่คือต้องอยู่ในห้องประชุมอยู่แล้ว
ส่วนกรณี ส.ส. พรรคฝ่ายรัฐบาลแพ้โหวต โดยอ้างว่าเป็นเพราะความไม่พร้อมของสถานที่นั้น ตนเคยพูดอย่างน้อย 2 ครั้งแล้วว่าไม่ใช่การแพ้ แต่เป็นเรื่องของกรรมาธิการ ต้องถือเสียงของกรรมาธิการเป็นหลัก ส่วนตัวยังแปลกใจว่าทำไมมาลงคะแนนห่างกันเพียง 1 คะแนน เพราะความจริงคะแนนควรจะห่างกันเยอะ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า