วันนี้ (2 สิงหาคม) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงมาตรการล็อกดาวน์ที่มีการประกาศปรับระดับพื้นที่ใหม่ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัดว่า ข้อกำหนดประกาศใหม่มีผลบังคับใช้วันที่ 3 สิงหาคม 2564
โดยการประกาศยึดตามตัวเลขคือถึงวันที่ 31 สิงหาคม แต่เมื่อออกข้อกำหนด ศบค. จะพิจารณาผลการกำกับติดตามในระยะ 2 สัปดาห์ก่อน คือวันที่ 18 สิงหาคม จะพิจารณา หากผลกำกับติดตามเป็นไปในทิศทางที่ดี ข้อกำหนดอาจผ่อนคลายได้ หากยังไม่ดีและน่าเป็นห่วงก็ยืดไปถึงวันที่ 31 สิงหาคมได้
นอกจากนี้ยังพูดถึงตำรวจทหารต้องตั้งด่าน พยายามกำกับติดตามมาตรการให้เข้มข้น ประชาชนที่อาจจะจำเป็นต้องเดินทาง เจ้าหน้าที่เรียกดูหลักฐาน อำนวยความสะดวกให้ดีที่สุด แต่ที่ยังไม่จำเป็นต้องเดินทาง 14 วันนี้ ขอความร่วมมือลดการเดินทางหรืองดไปเลย หาก 14 วันดีขึ้นอาจผ่อนคลายมาตรการได้
สำหรับวัคซีน Pfizer บริจาคก่อนหน้าที่ระบุว่า 1.54 ล้านโดสเป็นตัวเลขที่เคยหารือ แต่รัฐบาลไทยรับจริง 1,503,450 โดส ยืนยันกลับไปที่สถานทูตก็ตรงกัน ขอย้ำว่าขั้นตอนการเจรจา กับการรับจริงตัวเลขอาจต่างกันบ้าง แต่ยืนยันว่าตัวเลขรับจริงถูกต้อง
ส่วนการจัดสรรวัคซีน Pfizer นั้น จะจัดสรรให้ใช้ในการกระตุ้นเข็ม 3 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ กระจายกลุ่มเสี่ยงสูงคือ สูงอายุ 60 ปี โรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และชาวต่างชาติในไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน และคนที่จำเป็นต้องไปต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศย้ำว่าก่อนรับ Pfizer เราฉีดต่างชาติไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมรวมเกือบ 2 แสนราย