วันนี้ (20 มกราคม) ที่อาคารรัฐสภา นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวถึงกรณีการผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ของรัฐบาล โดยระบุว่า ขณะนี้เรากำลังศึกษาและรอดูรายละเอียดที่รัฐบาลดำเนินการ หากรัฐบาลจะผลักดันเรื่องนี้จริง เราพร้อมแสดงจุดยืน รวมถึงร่วมให้ข้อมูลแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นอนาคตของเยาวชนของชาติ และทิศทางของประเทศ ไม่ใช่แค่เรื่องของเศรษฐกิจ
ส่วนที่มีข้อเสนอให้ทำประชามติเรื่อง Entertainment Complex นั้น นันทนาระบุว่า เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ทำให้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยาก ใช้งบประมาณมาก ถ้าเรื่องต่างๆ ต้องทำประชามติทั้งหมด เกรงว่าเงินจะหมดคลัง หากเป็นไปได้ก็อยากให้การทำประชามติเป็นเรื่องที่ประชาชนเข้าถึงง่าย ตราบใดที่การจัดทำประชามติมีมูลค่าสูง รายละเอียดมาก ซับซ้อน ก็ถือเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากแก้ไขในส่วนนี้ได้ เราเห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติ
ส่วนเห็นด้วยหรือไม่กับที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากมี Entertainment Complex คนไทยจะมีเงินเต็มกระเป๋า นันทนาตอบว่า ไม่ทราบว่าทักษิณพูดในนามของใคร ตำแหน่งอะไร ถ้าบอกว่าเป็นแค่ผู้ช่วยหาเสียง ไม่แน่ใจว่าสามารถที่จะแสดงความคิดเห็นแทนรัฐบาลได้ขนาดนี้หรือไม่ หากพูดในตัวแทนรัฐบาลคงจะต้องมีการตรวจสอบว่าสามารถทำได้หรือไม่
“การระบุว่าการทำเรื่องอบายมุขให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย จะทำให้ประเทศชาติร่ำรวย อยากให้มองประเทศเพื่อนบ้านที่นำเรื่องผิดกฎหมายขึ้นมาบนดิน เศรษฐกิจดีอย่างที่คาดไว้หรือไม่ ถ้าเรานำเรื่องอบายมุขขึ้นมาถูกกฎหมายทั้งหมดต่อไปประเทศเราอาจจะใกล้เคียงกับบางประเทศที่มีสินค้าส่งออกเป็นยาเสพติด เพราะถือว่าทำรายได้ได้ดี” นันทนากล่าว
นันทนามองว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ปัญหาดังกล่าวต้องเริ่มต้นจากการเมือง รัฐธรรมนูญต้องดี นำไปสู่เศรษฐกิจที่ดีและยั่งยืน ไม่ใช่การแจกเงินชั่วครั้งชั่วคราว หรือเอาอบายมุขขึ้นมา สุดท้ายเยาวชนของชาติก็ไม่มีอนาคต
ด้าน เทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. กล่าวว่า หลายพรรคการเมืองมีการเสนอว่าควรมี แต่ต้องมีการควบคุม ในสมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีการเสนอเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าการนำเรื่องนี้ขึ้นมาบนดิน พร้อมกำกับการเก็บภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย หลายประเทศที่เจริญแล้วก็มีการทำเช่นนี้ ดีกว่าปล่อยให้อยู่ใต้ดินและมีการเก็บส่วย หากกลัวช่องโหว่ทางกฎหมาย เราอาจจะไม่ได้ทำอะไรเลย มีบางข้อเสนอที่ไม่ได้ปล่อยเสรีทั้งหมด แต่มีเรื่องของการกำกับควบคุมที่ทำให้สามารถตรวจสอบและเก็บภาษีได้ ข้อกังวลรูรั่วในระบบเป็นโจทย์สารตั้งต้นในการออกแบบร่างกฎหมายที่ทำให้ตอบโจทย์
