กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ประกาศปิดเมืองเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงทำสถิติจนระบบสาธารณสุขของเมืองไม่สามารถรองรับได้
อย่างไรก็ดี สถานที่ราชการ และบริการที่จำเป็น เช่น โรงพยาบาล ร้านขายยา และร้านขายของชำ จะเปิดให้บริการในช่วงล็อกดาวน์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 เมษายน
ก่อนหน้านี้กรุงนิวเดลีได้ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ถึงกระนั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ยังคงเพิ่มขึ้น และทำสถิติเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันเดียวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่จำนวน 24,462 ราย
“ผมคัดค้านการล็อกดาวน์มาโดยตลอด แต่มาตรการนี้จะช่วยให้เราเพิ่มจำนวนเตียงโรงพยาบาลในเดลีได้” อาร์วินด์ เกจริวัล มุขมนตรีกรุงนิวเดลี กล่าวในการแถลงข่าววันนี้
นอกจากนี้เขายังได้ขอร้องแรงงานต่างเมืองไม่ให้เคลื่อนย้ายออกจากนิวเดลีในช่วงล็อกดาวน์ หลังจากที่การล็อกดาวน์เมื่อปีที่แล้วทำให้แรงงานเหล่านี้ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิด เนื่องจากหลายคนตกงาน ขาดรายได้และไม่มีเงิน
“นี่เป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” มุขมนตรีนิวเดลีกล่าว “ผมรู้ว่าเมื่อมีการประกาศล็อกดาวน์ แรงงานที่ได้รับค่าจ้างรายวันจะได้รับผลกระทบและตกงาน แต่ผมขอร้องให้พวกเขาอย่าออกจากเดลี มันเป็นการล็อกดาวน์ช่วงสั้นๆ และเราจะดูแลคุณ”
อินเดียกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 2 ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน โดยมีการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่า 200,000 รายทุกวันนับตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับช่วงที่สถานการณ์ระบาดรุนแรงที่สุดในปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นอินเดียมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยประมาณ 93,000 รายต่อวัน
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอินเดียรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต 1,620 รายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ได้ยกเลิกแผนการเดินทางเยือนอินเดียในวันนี้อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาด โดยแถลงการณ์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย จะหารือกันในช่วงเวลาต่อไปของเดือนนี้เกี่ยวกับแผนการความร่วมมือในอนาคตระหว่างสองประเทศ
รัฐมหาราษฏระ ซึ่งมีศูนย์กลางทางการเงินของอินเดียอย่างนครมุมไบเป็นเมืองหลวงนั้น ยังคงเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากโควิด-19 โดยจำนวนผู้ติดเชื้อในรัฐนี้คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศกว่า 1.9 ล้านราย
แต่นิวเดลีเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่ามุมไบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
โรงพยาบาลกำลังประสบปัญหาในการรองรับจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งในเดลีและเมืองอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เช่น มุมไบ ลัคเนา และอาห์เมดาบัด ขณะที่หลายรัฐรายงานการขาดแคลนเตียงอย่างเฉียบพลันในหอผู้ป่วยโควิด-19 และห้อง ICU นอกจากนี้แม้แต่การตรวจหาเชื้อก็ล่าช้าเช่นกัน ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับการวินิจฉัยและรับการรักษาทันเวลา
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า รัฐบาลอินเดียเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนเรื่องการระบาดระลอกที่ 2 และไม่ได้ดำเนินการเพื่อป้องกันหรือควบคุมโรค พร้อมยกตัวอย่างการแข่งขันคริกเก็ตที่มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากโดยที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย การปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งที่มีการฝ่าฝืนกฎความปลอดภัยพื้นฐานในการป้องกันโควิด-19 และพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้มีชาวฮินดูจำนวนมหาศาลมารวมตัวกันที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาเมื่อต้นเดือนนี้
ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงและการเริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีน อินเดียจึงเริ่มต้นปีนี้ด้วยนิมิตหมายที่ดี แต่ในไม่ช้าสถานการณ์กลับเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลง เมื่อผู้คนเริ่มออกจากบ้านมากขึ้น สวมหน้ากากน้อยลง และเข้าสังคมเป็นกลุ่มใหญ่ นอกจากนี้การกลายพันธุ์ของไวรัสและความล่าช้าในการฉีดวัคซีนก็เป็นสาเหตุให้การติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และส่งผลให้ภายในไม่กี่สัปดาห์อินเดียไต่ขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของตารางประเทศผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยอินเดียมีผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่าทุกประเทศในโลก
ภาพ: Sonu Mehta / Hindustan Times via Getty Images
อ้างอิง:
