ลองคิดดูว่าถ้าคุณผู้ชายกำลังเดินอยู่ในเทศกาลดนตรีกลางเกาะส่วนตัว ซึ่งมองเห็น Hailey Baldwin, Emily Ratajkowski และ Bella Hadid กำลังเล่นน้ำ นอนอาบแดดอยู่ไกลๆ นึกออกใช่ไหมว่ามันจะเป็นดั่งสรวงสวรรค์ขนาดไหน
แต่แล้วในเดือนเมษายน 2017 จุดหมายปลายทางที่ควรจะกลายเป็นเกาะสวรรค์วันหยุด ได้กลายเป็นฝันร้ายของคนกลุ่มใหญ่ชนิดที่ชาตินี้คงลืมไม่ลง!
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากแผนการโปรโมตเทศกาลดนตรี Fyre Festival 2017 ซึ่งริเริ่มขึ้นโดย Billy McFarland โปรโมเตอร์คอนเสิร์ตชื่อดัง และแรปเปอร์ชาวอเมริกัน Ja Rule งานนี้นอกจากจะจัดทัพศิลปินอย่าง Blink-182, Major Lazer ฯลฯ ยังมีการโฆษณาชวนฝันว่าทุกคนที่ซื้อบัตร (ซึ่งมีราคาบัตรสูงถึง 4,000-12,000 เหรียญสหรัฐ) จะได้สนุกอย่างมีระดับ โดยการชมคอนเสิร์ตพร้อมกับพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูบนหาดส่วนตัวกลางเกาะบาฮามาส
ฉะนั้นมันคือเทศกาลดนตรีในฝันของคนมีสตางค์ที่พร้อมจะใช้เงินแลกกับความบันเทิงที่ยกทั้งระดับชีวิตและคัดเกรดผู้ชมไปในตัว โดยงานจัดขึ้น 2 วัน และ 2 ช่วงเวลา คือ 28-30 เมษายน และ 5-7 พฤษภาคม 2017
แต่แล้วภาพฝันก่อนเดินทาง กับโลกความจริงหลังจากเดินทางมาถึงกลับต่างกันราวนรก-สวรรค์ …จากที่พักที่ควรจะเป็นวิลลาหรู กลายเป็นเพียงแค่เต็นท์ที่ยังเตรียมไม่เสร็จดี (แถมสภาพเต็นท์ยังเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในค่ายผู้ลี้ภัย) พ่วงด้วยเตียงนอนที่เปียกชื้นจากพายุฝน อาหารที่ควรจะถูกรังสรรค์ด้วยเชฟฝีดีมือ เหลือเพียงแค่แซนด์วิช ชีส ผักสลัดให้กินประทังความหิว
แถมโชว์ต่างๆ ที่เคยอวดอ้างก็ไม่มีลำดับเวลาที่แน่นอน ศิลปินอย่าง Blink-182 ถึงกับแคนเซิลคิวกะทันหันด้วยเหตุผลว่า พวกเขาไม่สามารถมอบเสียงเพลงตามมาตรฐานให้กับแฟนๆ ได้ภายใต้ระบบการจัดการคอนเสิร์ตที่แย่ขนาดนี้
ถ้าคิดว่านี่คือนรกแล้ว… บอกเลยว่านั่นแค่ขุมที่ 2 เพราะแม้กระทั่งเรื่องเที่ยวบินของผู้มาชมคอนเสิร์ตก็ยังมีปัญหา ทำให้มีผู้ที่ต้องตกค้างอยู่บนเกาะเป็นจำนวนมาก พนักงานและบริษัทที่เข้ามาร่วมงานไม่ได้รับเงินค่าจ้าง จนเรียกได้ว่า Fyre Festival คือหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่เคยมีการจัดงานประเภทนี้มา มีการประเมินกันว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ Maryann Rolle แม่ครัวชาวบาฮามาส เพราะเธอได้ลงทุนเตรียมอาหารทั้งหมดเพื่อรองรับผู้มาเยือน พร้อมทีมงานที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อผลิตอาหารให้ได้ 1,000 คนใน 1 วัน แต่ผลสุดท้ายเธอกลับถูกทิ้งและไม่ได้รับเงินตอบแทนอะไรกลับคืนมา
แม้จำนวนเงิน 50,000 เหรียญสหรัฐที่เธอลงทุนไปอาจจะดูไม่มากนักถ้าเทียบกับความเสียหายทั้งหมด แต่สำหรับ Maryann Rolle มันคือเงินที่เธอเก็บสะสมมาทั้งชีวิต และเมื่อความหวังครั้งสำคัญได้กลายเป็นหายนะ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
เธอได้แต่เก็บกดความในใจเอาไว้ และนำมาบอกเล่าผ่าน GoFundMe เว็บไซต์ระดมเงินบริจาคสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในช่วงก่อนที่ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Fyre: The Greatest Party That Never Happened ที่บอกเล่าเบื้องหลังอันเป็นสาเหตุของความพังพินาศในเทศกาลครั้งนี้จะเริ่มฉายใน Netflix โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 123,000 เหรียญสหรัฐ
แต่หลังจากเรื่องราวพร้อมหยาดน้ำตาของเธอถูกรับรู้และได้เข้าไปกระทบใจคนดูทั้งโลก เพียงแค่ 3 วัน ยอดเงินบริจาคที่เคยตั้งเอาไว้ก็ทะลุไปถึง 135,000 เหรียญสหรัฐอย่างที่ตั้งใจเป็นที่เรียบร้อย
มากไปกว่านั้น หลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป Ja Rule หนึ่งในตัวตั้งตัวตีจัดงาน Fyre Festival 2017 ก็ได้ออกมาโพสต์ขอโทษเธอผ่านทางอินสตาแกรมว่า
“หัวใจของผมถูกส่งไปให้ผู้หญิงที่น่ารักคนนี้… Maryanne Rolle ถึงเราจะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ผมอยากบอกว่า ผมเสียใจที่งานซึ่งควรจะมีแต่ความมหัศจรรย์กลับกลายเป็นหายนะและทำร้ายผู้คนมากมาย… ผมขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบแย่ๆ จากเทศกาลนี้จริงๆ”
นอกจากสารคดีเรื่อง Fyre: The Greatest Party That Never Happened ของ Netflix ยังจะมีสารคดี Fyre Fraud ที่บอกเล่าถึงเหตุการณ์วายป่วงของ Fyre Festival เช่นกัน (ช่วงไฮไลท์คือหนังพา Billy McFarland มานั้งสัมภาษณ์ได้ด้วย)โดยฉายแล้วทางสตรีมมิง Hulu ใครยังอินไม่จบ ไปหาดูกันต่อได้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: