สภาพัฒน์แนะ รัฐบาลควรออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือคนรายได้น้อย หากไม่ดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ ย้ำ รัฐบาลควรรักษาบรรยากาศและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
วันนี้ (19 สิงหาคม) ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลเห็นว่าจะไม่ดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ ก็ควรต้องพิจารณามาตรการอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงนี้ โดยเฉพาะมาตรการช่วยพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย
อย่างไรก็ดี ดนุชาระบุว่า ต้องจับตาดูการประกาศนโยบายของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อีกที ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ต่างไปจากรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสินหรือไม่
โดยดนุชากล่าวว่า ต้องรอดูว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะใดหรือไม่ เนื่องจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเดิมของเศรษฐา อดีตนายกฯ มีเงื่อนไขสำคัญอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ 1. แหล่งเงินที่มา ตัวอย่างเช่นงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 ซึ่งมีเงื่อนไขด้านช่วงเวลาในการใช้ และ 2. ระบบการชำระเงิน ซึ่งต้องมีการพูดคุยและฟังความเห็นของภาคส่วนต่างๆ อีกที
“ผมคิดว่าอย่างไรก็ต้องมีการออกมาตรการชุดใหม่เพื่อช่วยพี่น้องประชาชนในช่วงนี้ โดยต้องพิจารณาจากทรัพยากรที่มี เครื่องมือที่มี โครงสร้างพื้นฐานที่มีว่าจะใช้มาตรการในลักษณะไหน เพื่อให้เกิดการทำงานได้เร็วขึ้น” ดนุชากล่าว
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2567 ขยายตัวเพียง 2.3% นับว่าต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ
โดยจากการรวบรวมข้อมูลพบว่า เวียดนามนับเป็นประเทศที่เศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยขยายตัวถึง 6.9% รองลงมาคือ ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์
ในรายงานเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2567 สภาพัฒน์กล่าวอีกว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ รัฐบาลควรรักษาบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการสร้างความต่อเนื่องของกระบวนการงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน