อีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของศิลปินสาวไทยมากความสามารถ เนเน่-พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ หรือ เจิ้งหน่ายซิน ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัวกับทางค่าย Sony Music China ไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยซิงเกิลเปิดตัว Promise
หลังจากเนเน่ได้ไปสร้างชื่อเสียงและแสดงศักยภาพที่เปี่ยมล้นของเธอในแดนมังกรจากการแข่งขันในรายการ Chuang 2020 และได้รับคะแนนโหวตอย่างถล่มทลายจนเธอสามารถเป็นสมาชิกสัญชาติไทยเพียงคนเดียวที่ได้เดบิวต์กับวงเกิร์ลกรุ๊ป BonBon Girls 303 เกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติจีนที่เพิ่งหมดสัญญาไปในวันครบรอบ 2 ปีของวงเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนเน่ก็ไม่ปล่อยให้แฟนๆ ของเธอต้องรอนาน พร้อมลุยงานในการเป็นศิลปินเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตอย่างเต็มตัว
THE STANDARD POP มีโอกาสได้พูดคุยและสัมภาษณ์ เนเน่ หลังจากงานแถลงข่าวเปิดตัวซิงเกิลแรกของเธอ Promise ที่เนเน่ได้กล่าวว่า อยากให้เพลงของเธอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเยียวยาจิตใจของผู้คน และทำให้ผู้ฟังรู้สึกดีขึ้นได้จากการได้รับฟังบทเพลงของเธอ
หลังจากได้เดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง มีการเปลี่ยนแปลงหรือรู้สึกแตกต่างจากตอนที่เดบิวต์แบบวงมากแค่ไหน
ความแตกต่างค่อนข้างเยอะค่ะ เพราะตอนเป็นกลุ่มเราจะมีความเป็นวงไอดอล ทั้งต้องเต้นและต้องร้องเพลง รวมไปถึงการที่จะต้องดูแลภาพลักษณ์และการแต่งกายด้วย แล้วเราก็จะมีเพื่อนๆ คอยช่วยเหลือกัน แต่พอมาเป็นศิลปินเดี่ยวเนเน่รู้สึกต้องมีความเป็นศิลปินมากขึ้น และเอาความเป็นตัวเองออกมามากขึ้นค่ะ
ประสบการณ์ที่ประทับใจในตอนทำงานกับวง BonBon Girls 303 ที่อยากแบ่งปันให้ทุกคนได้ฟัง
จะเป็นตอนที่พวกเรารู้สึกเหนื่อยแล้วมาร้องไห้ด้วยกันค่ะ มันมีหลายเหตุการณ์มากเลยค่ะที่รู้สึกตื้นตันหัวใจ เพราะเพื่อนๆ ในวงทุกคนเราก็ต่างร่วมสู้ด้วยกันมา เหนื่อยก็เหนื่อยด้วยกัน เจอเรื่องแย่ๆ อะไรก็เจอมาด้วยกัน พอเจอเรื่องดีๆ ก็รู้สึกแฮปปี้ไปด้วยกัน มันเลยเป็นอะไรที่ค่อนข้างตราตรึงในใจเนเน่มากๆ เพราะเรามีเพื่อนที่เป็นเหมือนคนในครอบครัวเลยจริงๆ
ความกดดันที่แตกต่างกันระหว่างการทำงานแบบเดี่ยวกับการทำงานแบบวง
ตอนอยู่แบบวงเนเน่รู้สึกว่าความกดดันส่วนมาก รวมถึงการทำงาน การพูด และการต้องแสดงออกต่อหน้าสื่อต่างๆ จะหนักอยู่ที่เซ็นเตอร์และหัวหน้าวงเป็นหลัก แต่พอมาอยู่คนเดียวแล้วต้องจัดการทุกอย่างเอง สื่อสารเอง พูดเองทุกอย่าง ก็เลยรู้สึกมีความแตกต่างตรงนี้ค่ะ
เล่าถึงซิงเกิล Promise หน่อยว่าเป็นเพลงแนวไหน มีความหมายว่าอย่างไร
เป็นเพลงป๊อปฟังสบายค่ะ เนเน่รู้สึกว่ามันฟังสบายนะ เป็นแนวเพลงให้กำลังใจ เพราะตัวเพลงนี้ในมิวสิกวิดีโอจะมีการใช้ภาษามือด้วย เพราะเนเน่ตั้งใจที่จะอยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงความหมายของเพลงนี้ได้อย่างลึกซึ้งและเข้าใจ ก็เลยมีภาษามือแทรกเข้ามาด้วย
ส่วนเนื้อหาเพลงจะเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับแฟนๆ ที่สนับสนุนเนเน่มาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ รวมถึงในอนาคตข้างหน้าว่าเราจะบินไปด้วยกัน เป็นการตอบแทนความรักที่พวกเขามอบให้ค่ะ
เพลง Promise เล่าถึงการโบกมือลาอดีตและเริ่มต้นใหม่ เนเน่นิยามคำว่าเริ่มต้นใหม่ในครั้งนี้ว่าอย่างไรบ้าง
เนเน่รู้สึกว่าการเริ่มต้นใหม่ในครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่จริงๆ ในฐานะที่เป็นตัวเนเน่เอง เป็นการเอาประสบการณ์จากอดีตที่ผ่านมามาเสริมสร้างตัวเรา ให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้น ทำงานและผลิตผลงานต่างๆ ออกมาได้อย่างดียิ่งขึ้น เนเน่รู้สึกว่าประสบการณ์ที่ผ่านมามันสอนเราให้กลายเป็นคนใหม่ในแบบที่เนเน่อยากจะเป็น ได้ลงมือทำในสิ่งที่ชอบ และได้บอกทุกคนว่านี่แหละคือแนวเพลงที่เราอยากทำนะ
เนเน่ได้เตรียมตัวในเรื่องไหนเป็นพิเศษสำหรับการเดบิวต์ครั้งนี้หรือไม่
อัลบั้มนี้จะมีสไตล์ที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไปในแต่ละบทเพลงค่ะ เพลง Promise จะเป็นเพลงแรกที่เป็นแนวป๊อปฟังสบายและให้กำลังใจคนฟัง แต่ถ้าเพลงอื่นๆ ก็อาจจะมีการเต้นเข้ามา รวมถึงมีเพลงที่มีการร้องแบบไฮโน้ตเข้ามาด้วยเหมือนกัน เนเน่เลยได้ฝึกเพิ่มทั้งการร้องและการเต้นค่ะ
อยากให้ลองนึกถึงภาพของเนเน่ กับอาชีพนักร้องในอีก 5 ปีข้างหน้า
เนเน่ไม่อยากระบุชัดว่าตัวเองจะต้องเป็นแค่นักร้องหรือว่านักแสดง เรารู้สึกว่าเส้นทางนี้มันค่อนข้างกว้างมาก เนเน่เลยคิดว่าเราสามารถที่จะเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่ให้ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ได้ทำเพลงต่อไป เนเน่เป็นคนที่ชอบทำเพลงมากๆ ค่ะ อยากเขียนเพลงที่สามารถช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนได้ เนเน่เลยควาดหวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า เพลงของเราสักเพลงหรือหลายๆ เพลงจะสามารถช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจคนอื่นและฮีลลิ่งใจผู้คนได้
นอกเหนือจากการออกซิงเกิลแล้ว ในอนาคตเนเน่อยากจะทำงานด้านอื่นๆ อีกไหม หรือบอกใบ้งานในอนาคตให้แฟนๆ ได้รอติดตามกันหน่อย
มีแน่นอนค่ะ ทั้งรายการวาไรตี้หรือว่าซีรีส์ แต่ด้วยความที่เนเน่กับทางต้นสังกัดเราจะคุยกันตลอดว่าเนเน่อยากทำงานออกมาให้ดีที่สุด เนเน่เลยอาจจะไม่ได้รับเล่นแบบหลายๆ เรื่อง อาจจะมีแค่ปีละเรื่อง ซึ่งจะรับเล่นเป็นบทที่เหมาะกับตัวเรา ที่เนเน่เล่นแล้วมันโอเค เพราะอยากตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพออกมาให้ดีมากกว่าค่ะ ในเรื่องเพลงก็ด้วย
เนเน่คาดหวังสิ่งใดบ้างจากการเดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยวในครั้งนี้
อย่างที่บอกเลยค่ะ เวลาเนเน่ทำเพลงออกมาเนเน่จะคาดหวังว่าเราจะสามารถเยียวยาจิตใจคนได้ เนเน่รู้สึกว่าสไตล์เพลงแบบเนเน่ค่อนข้างจะเฉพาะกลุ่มนะคะ เลยรู้สึกว่าจะเลือกทำเพลงในแบบที่เราพึงพอใจดีกว่า และอยากให้ความหมายของเพลงมันสามารถเข้าถึงผู้คนได้ แบบที่ว่าเวลามีคนได้ฟังเพลงเราแล้วเข้ารู้สึกได้ฮีลลิ่งตัวเอง
เนเน่รู้สึกว่าคนในยุคนี้อาจจะมีอาการป่วยหรือซึมเศร้าได้ง่ายค่ะ จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาตรงนี้โดยการให้เขาได้ฟังเพลงของเรา ได้ยินเสียงเราแล้วมันช่วยเยียวยาจิตใจเขาได้ ตรงนี้ถ้าทำได้เนเน่ก็ถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วในสิ่งที่เราต้องการ
อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ และเหล่าอะตอมชาวไทยที่ติดตามเรามาตลอด
ขอขอบคุณ THE STANDARD POP เป็นอย่างแรกเลยค่ะ ที่ให้ความสนใจในตัวเนเน่ จริงๆ เนเน่เห็นบ่อยมากเลยว่า THE STANDARD POP เขียนข่าวและแชร์ข่าวสารของเนเน่ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่เป็นสื่อกลางที่ทำให้เนเน่ได้สื่อสารกับแฟนคลับในประเทศไทย แล้วก็แฟนๆ ทุกคนที่ติดตามเนเน่มาตลอดก็ขอบคุณมากๆ เหมือนกันค่ะ ในอนาคตก็คาดหวังว่าเราจะได้เจอกันนะคะ
รับฟังเพลง Promise ได้ที่