สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันบรรลุข้อตกลงในหลักการเกี่ยวกับความมั่นคงในบริเวณชายแดนทางใต้ของสหรัฐฯ หลังประชุมเครียดนานหลายชั่วโมงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อคืนวานนี้ (11 ก.พ.) นับเป็นการผ่าทางตันในการผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ในสภาคองเกรส เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะชัตดาวน์อีกระลอก
ข้อตกลงดังกล่าวบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับงบประมาณที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการสำหรับกำแพงชายแดน แต่ในข้อตกลงไม่ได้ระบุถึงสิ่งกีดขวางคอนกรีตแต่อย่างใด
ถึงแม้ว่าผู้แทนเจรจาจากสองพรรคการเมืองใหญ่จะตกลงกันได้แล้ว ทว่าข้อตกลงดังกล่าวยังต้องผ่านความเห็นชอบในสภาคองเกรส และลงนามรับรองโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จึงจะมีผลบังคับตามกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่ยืนยันว่าจะสนับสนุนร่างข้อตกลงฉบับนี้หรือไม่ แต่ระบุเพียงว่า “ไม่ว่าอย่างไร เราจะสร้างกำแพงให้จงได้”
ก่อนหน้านี้เดโมเครต ซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ยืนกรานว่าจะขัดขวางร่างงบประมาณจำนวน 5.7 พันล้านเหรียญสำหรับสร้างกำแพงตามที่ทรัมป์ร้องขอ แต่ในข้อตกลงฉบับนี้มีการบรรจุงบประมาณเพียง 1.375 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับสร้างสิ่งกีดขวางระยะทาง 88 กิโลเมตร ซึ่งรวมถึงรั้วเสาเหล็ก แต่ความยาวของแนวกำแพงที่ทรัมป์ต้องการมีระยะทางรวมกว่า 320 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามสมาชิกสภาบางส่วนมองในแง่ดีว่า พวกเขาจะสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณได้สำเร็จภายในวันศุกร์นี้ (15 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันกำหนดเส้นตายที่หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนจะไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณก้อนใหม่เพื่อนำไปดำเนินงานหรือจ่ายค่าจ้างให้พนักงานรัฐได้
ทั้งนี้ภาวะชัตดาวน์รอบที่แล้วกินระยะเวลานานถึง 35 วัน ซึ่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ ก่อนที่ทำเนียบชาวและสภาคองเกรสจะจัดทำข้อตกลงงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลกลับมาเปิดทำการจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตามวิกฤตชัตดาวน์ครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: