ในขณะที่เรากำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตโควิด-19 ซึ่งยังไม่มีคำตอบว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร ทำให้องค์กรภาครัฐและเอกชนต่างต้องออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ หนึ่งในมาตรการสำคัญคือ การให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from Home เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในที่ทำงาน แต่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์นั้น Work from Home เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อพวกเขาคือปราการสำคัญที่ต้องรับมือ และเผชิญหน้ากับสงครามไวรัสนี้ ซึ่งในทุกๆ วินาทีที่พวกเขาปฎิบัติหน้าที่ ย่อมมีความเสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย ชุดป้องกัน และอื่นๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อปกป้องให้นักรบชุดขาวของเรามีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแรงดันลบและกล่องทำหัตถการแรงดันลบ คืออีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือระหว่างบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. และบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ รวมทั้งพันธมิตรคือบริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยี จำกัด โดยได้นำต้นแบบ (Prototype) เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบที่สร้างขึ้นโดยคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช มาต่อยอดและเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้น ใช้องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมมาพัฒนาให้สามารถทำงานได้ถึง 3 หน้าที่ในเครื่องเดียว คือ สร้างแรงดันลบ กรองอนุภาค และฆ่าเชื้อโรค
เครื่องมือนี้ได้ผ่านการทดสอบจากบุคลากรทางการแพทย์ผู้ใช้งานจริง ซึ่งพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถลดความเสี่ยงให้กับบุคลากรทางการแพทย์เมื่อต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อได้จริง มีหลักการทำงานคือ ด้านบนของเตียงมีลักษณะเป็นแคปซูล โดยมีกล่องเครื่องกำเนิดแรงดันลบอยู่ด้านล่าง ซึ่งจะปรับความดันอากาศที่ดูดเข้าไปภายในแคปซูลให้ต่ำกว่าอากาศภายนอก 5-10 ปาสกาล เมื่อความดันภายในแคปซูลเป็นลบ อากาศจะไม่ไหลออกสู่ภายนอกที่มีความดันสูงกว่า ด้วยหลักการนี้เอง จึงทำให้มั่นใจได้ว่า เชื้อโรคจะไม่แพร่กระจายออกสู่ภายนอก ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังติดตั้งแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (HEPA Filter) ที่สามารถกรองอนุภาคระดับ 0.3 ไมโครเมตร หรือเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ 100 เท่า ได้ถึง 99.99% และหลอดไฟแสงอัลตราไวโอเลตซี (UV-C) ซึ่งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค จึงทำให้อากาศที่ปล่อยกลับสู่ภายนอกนั้นมีความปลอดภัย ซึ่งสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 6-7 ชั่วโมง ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ และยังสามารถใช้งานด้วยระบบไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกล โดย ปตท.สผ. และบริษัทพันธมิตรยังได้พัฒนาเครื่องกำเนิดแรงดันลบแบบเคลื่อนที่อีกรูปแบบหนึ่งด้วยหลักการเดียวกัน ซึ่งเมื่อนำไปติดตั้งร่วมกับกล่องทำหัตถการ จะช่วยให้การตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยติดเชื้อเป็นไปอย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สะดวกต่อการใช้งานและเคลื่อนย้าย
ความสำคัญของนวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ แต่ยังสามารถช่วยทดแทนการนำเข้าเครื่องมือจากต่างประเทศ ซึ่งเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบจากต่างประเทศนั้นมีราคาสูงถึง 400,000-600,000 บาท ทำให้โรงพยาบาลในประเทศจำนวนมากจึงขาดแคลนอุปกรณ์ที่จำเป็นนี้ ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ต้องใช้เวลานานในการสั่งซื้อและนำเข้ามาในประเทศ แต่ด้วยนวัตกรรมฝีมือคนไทย ทำให้เครื่องมือนี้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่ามาก และตัวเครื่องยังได้รับการออกแบบให้รองรับการผลิตในจำนวนมาก (Mass Production Engineering) ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย นอกจากนี้เตียงดังกล่าวยังสามารถใช้ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น วัณโรค จึงนับเป็นการเสริมความพร้อมของโรงพยาบาลไทยในการดูแลทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ในระยะยาวอีกด้วย
พงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า “ปตท.สผ. ให้ความสำคัญต่อการยับยั้งการแพร่กระจายของโควิด-19 และชื่นชมการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่อุทิศตนในการดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่ง ปตท.สผ. และพันธมิตรของเรา ขอเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นภารกิจอันยากลำบากของประเทศไทยและของโลกในขณะนี้ และบริษัทยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เราใช้ในการค้นหาพลังงานมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยเหลือสังคม เช่น การพัฒนาเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแรงดันลบ และกล่องทำหัตถการแรงดันลบ ที่ความพิเศษครั้งนี้จะเป็นอีกส่วนหนึ่งในการปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับโควิด-19 ให้สำเร็จ”
ด้าน ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า “สถานการณ์ปัจจุบันเป็นการสู้รบในสงครามโควิด-19 ซึ่งถ้าเพลี่ยงพล้ำเมื่อไร ก็อาจเกิดปัญหาบุคลากรในระบบสาธารณสุขติดเชื้อ ทำให้กำลังในการรบครั้งนี้ของเราหายไปอย่างรวดเร็ว อย่างที่เกิดขึ้นในหลายโรงพยาบาลในภูมิภาค อุปกรณ์เหล่านี้จึงมีความสำคัญและจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับโรงพยาบาล ขอขอบคุณ ปตท.สผ., บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส และบริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยี ที่พัฒนาอุปกรณ์เหล่านี้ให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ”
โดยปัจจุบัน ปตท.สผ. ร่วมกับพันธมิตร ได้ผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแรงดันลบจำนวน 100 เตียง และกล่องทำหัตถการแรงดันลบจำนวน 90 ชุด รวมมูลค่า 14,500,000 บาท ส่งมอบให้กับคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เพื่อใช้งานและจัดสรรให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศที่ขาดแคลน รวมถึงมอบให้กับโรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ปฏิบัติการของ ปตท.สผ. ด้วย
ถือเป็นเรื่องน่ายินดีและน่าชื่นชมท่ามกลางภาวะวิกฤต ที่เราได้เห็นความร่วมมือขององค์กร ใช้องค์ความรู้ที่มีสร้างสรรค์นวัตกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อปกป้องปราการด่านหน้าในการต่อสู้กับศัตรูร้ายให้ก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน