ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขการชดเชยกรณีคลื่นใบอนุญาตทีวีดิจิทัล มีมติให้สำนักงาน กสทช. เยียวยาทีวีดิจิทัล โดยต้องยืมเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เป็นเงินราว 5.33 พันล้านบาท และจะนำเงินจากการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) มาชำระคืน กทปส. ในปี 2563 ซึ่งเงินเยียวยานี้จะประกอบด้วย
1. ค่าชดเชยจากการคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 7 ช่องทีวีดิจิทัล ราว 3.8 พันล้านบาท
2. จ่ายคืนค่าธรรมเนียมงวดที่ 5 ของทีวีดิจิทัล 3 ช่อง คือ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง 7) บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด (ช่อง 3) และบริษัท สปริงนิวส์ เทเลเวิชั่น จำกัด (ช่องสปริงนิวส์) จำนวน 217.7 ล้านบาท
3. ค่าเช่าใช้บริการโครงข่ายทีวีดิจิทัลจำนวน 552.8 ล้านบาท
4. ค่าปรับเปลี่ยนอุปกรณ์โครงข่ายภาคพื้นดินทีวีดิจิทัล (MUX) จำนวน 345 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงข่ายของกองทัพบกช่อง 5 จำนวน 85 ล้านบาท อสมท 100 ล้านบาท กรมประชาสัมพันธ์ 40 ล้านบาท และไทยพีบีเอส 120 ล้านบาท
5. เงินสนับสนุนการจัดทำระบบสำรวจความนิยมรายการทีวี (เรตติ้ง) อีก 431 ล้านบาท
สำหรับทีวีดิจิทัลที่คืนใบอนุญาตทั้งวอยซ์ทีวี สปริงนิวส์ และไบรท์ทีวี จะจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานที่ถูกปลดจากงานเพิ่มอีก 1 เดือน จากอัตราที่กฎหมายกำหนด ส่วนการเยียวยาประชาชนผู้รับชม กสทช. แนะว่า ควรประชาสัมพันธ์ในการยุติการออกอากาศไม่น้อยกว่า 45 วัน โดยให้ยุติการออกอากาศในวันที่ 31 สิงหาคม 2562
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
