วันนี้ (13 สิงหาคม) พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการจัดหาเรือดำน้ำและเรือฟริเกตของกองทัพเรือ โดยยืนยันว่าโครงการเรือดำน้ำจะเดินหน้าต่อไปได้ หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้แก้ไขสัญญาเพื่อเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นรุ่น CHD620 ของจีน
รายละเอียดการแก้สัญญาเรือดำน้ำ
พล.ร.อ.จิรพลระบุว่า หลังจากนี้กองทัพเรือจะยกร่างสัญญาแก้ไขข้อตกลงและส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนการลงนาม เมื่อลงนามแล้วจะเริ่มนับสัญญาใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1,200 วัน หรือประมาณ 3 ปี จึงจะสามารถส่งมอบเรือดำน้ำให้เข้าประจำการได้ ทั้งนี้ กองทัพเรือได้มีการดำเนินการเตรียมความพร้อมด้านท่าเรือและกำลังพลควบคู่กันไป
สำหรับโครงการจัดหาเรือฟริเกต ผบ.ทร. เผยว่า ครม. ได้อนุมัติโครงการ 2 ลำ แม้ว่าจะได้รับงบประมาณสำหรับจัดหาเพียงลำเดียวในขณะนี้ก็ตาม แต่การอนุมัติ 2 ลำในครั้งนี้จะทำให้การจัดหาเรือลำที่สองเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องมีการคัดเลือกใหม่ หากรัฐบาลอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมในอนาคต
นอกจากนี้ กองทัพเรือยังมีแนวคิดที่จะส่งเสริม อุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ
พล.ร.อ.จิรพลยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการตั้งฐานทัพของสหรัฐฯ ที่จังหวัดพังงาว่า กองทัพเรือยืนยันว่า ไม่มีการให้สหรัฐฯ ตั้งฐานทัพในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยินดีต้อนรับมิตรประเทศทุกชาติที่เข้ามาเยี่ยมเยือนและใช้บริการด้านการส่งกำลังบำรุงในฐานทัพของไทย ซึ่งเป็นไปตามความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน
ในส่วนของแผนการพัฒนาท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ผบ.ทร. ระบุว่า กองทัพเรือกำลังอยู่ระหว่างการทบทวนแผนงานเพื่อพิจารณาว่าจำเป็นต้องทุ่มเทงบประมาณไปในทิศทางใดเป็นพิเศษ เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด จึงต้องเลือกโครงการที่สอดคล้องกับสถานการณ์และความจำเป็นของประเทศอย่างแท้จริง