×

กองทัพเรือยอมรับ ชูชีพไม่เพียงพอ ปฏิบัติการค้นหาวันนี้พบเสียชีวิต 5 นาย ยังสูญหายอีก 24 นาย หวังพบผู้รอดชีวิตเพิ่ม

20.12.2022
  • LOADING...

วันนี้ (20 ธันวาคม) ผ่านไปเกือบ 41 ชั่วโมง หลังเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย กองทัพเรือเปิดแถลงข่าวความคืบหน้าโดย พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.ร.อ. ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ

 

พล.ร.อ. เชิงชายเริ่มต้นการแถลงด้วยการกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยที่บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ พระราชทานยาและเวชภัณฑ์

 

และกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวกำลังพล ซึ่งจากปฏิบัติการปูพรมค้นหากำลังพลที่ยังสูญหาย ปรากฏว่าวันนี้พบเพิ่มเติม 6 นาย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 5 นาย

 

โดยสรุปตัวเลขการค้นหากำลังพลบนเรือหลวงสุโขทัย ณ เวลา 18.00 น. 

  • กำลังพลบนเรือทั้งสิ้น 105 นาย
  • ค้นหาพบแล้ว 81 นาย (เสียชีวิต 5 นาย)
  • สูญหาย 24 นาย

 

ซึ่งกำลังพล 30 นายที่ไม่มีเสื้อชูชีพ แบ่งเป็น

  • ช่วยได้แล้ว 18 นาย
  • เหลืออีก 12 นายที่สูญหายและไม่มีชูชีพ

 

พล.ร.อ. เชิงชายระบุว่า กรณีเสื้อชูชีพที่มีไม่เพียงพอ เพราะว่าเรือหลวงสุโขทัย นอกจากการลาดตระเวน ต้องมีการนำกำลังพลไปร่วมในพิธีครบรอบ 100 ปี เสด็จเตี่ย ที่จังหวัดชุมพร ในการลงไปเพิ่มของกำลังพล คือมีกำลังพลเดินทางไปกับเรือเพื่อร่วมพิธี 

 

ทั้งหมดนี้เรือรบหลวงสุโขทัยทราบปัญหาตรงนี้ดีว่ามีเสื้อชูชีพไม่พอกับกำลังพลที่มาเพิ่มเติมจำนวน 30 นาย ก็พยายามนำอุปกรณ์และสิ่งที่ช่วยชีวิตได้มาให้กับกำลังพลที่ไม่มีเสื้อ บางคนเอาลูกยางที่ผูกติดกับเรือเล็กมาผูกกับเอวไว้

 

“บนเรือมีแพชูชีพ ทั้งกดด้วยมือและอัตโนมัติ จุคนได้ 15 นาย เขาวางแผนแล้วว่าถ้าเรือใกล้จมจะกดด้วยแมนวล และนำเอาคนไม่มีเสื้อชูชีพขึ้นเรือดังกล่าว มี 30 นายที่ไม่มีเสื้อชูชีพ

 

“อย่ามองว่าคนไม่มีเสื้อชูชีพทั้ง 30 นายจะสูญเสียทั้งหมด เขามีการเตรียมพร้อม ช่วยกันอย่างไร สภาพอย่างนั้นทุกคนต้องช่วยเหลือกันและกัน ต้องเรียนว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน ไม่ได้เตรียมการ เรือจมรวดเร็ว ฉุกละหุก” พล.ร.อ. เชิงชายกล่าว

 

พล.ร.อ. เชิงชายกล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ กองทัพเรือจะต้องมีการรายงานเหตุการณ์ตามระเบียบเป็นการรายงานด่วนถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพเรือมีระเบียบว่าด้วยการป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายที่ต้องให้หน่วยที่เป็นผู้บัญชาการของเรือก็คือทัพเรือภาค 1 รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รายงานความสูญเสียทั้งในเรื่องของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ จากนั้นจะมีการรายงานเรื่องของระเบียบความรับผิดทางละเมิด ที่จะต้องรายงานข้อเท็จจริงไปถึงกระทรวงการคลังและนายกรัฐมนตรีได้รับทราบ

 

และจะมีการตั้งกรรมการจะสอบตั้งแต่ผู้การเรือไปจนถึงกำลังพลทุกนาย ถึงเหตุการณ์เกิดขึ้น ขั้นตอนปฏิบัติ เพราะฉะนั้นในรายละเอียดที่เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาเหตุของเรือจมที่มีการกล่าวว่าเสื้อชูชีพไม่พอกับกำลังพล ต้องถูกสอบสวนและรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดมาที่กองทัพเรือ

 

ขณะที่ พล.ร.อ. ชลธิศกล่าวว่า เพิ่งได้รับคำยืนยัน วันนี้มีเคสที่ตรวจพบ 6 เคส เป็นเคสสีเขียว 1 คน สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ที่ลอยมา 60 กิโลเมตรจากจุดที่เรือจม เคสที่ 2-5 เป็นเคสดำ และเคสที่ 6 ที่ทางอากาศยานเห็นการเคลื่อนไหว และจะเห็นเป็นเคสสีเขียว แต่ตรวจพบภายหลังว่าเป็นเคสสีดำ อีก 1 เคส โดยผู้สูญเสียนั้นยังอยู่ในขั้นตอนพิสูจน์ทราบที่โรงพยาบาลบางสะพาน

 

“เรายังมั่นใจ น่าจะยังมีความหวังอยู่ เปรียบกับการตกน้ำของชาวประมง บางราย 60 ชั่วโมงยังเป็นไปได้ และดูจากทิศทางกระแสลม กระแสน้ำ ที่พัดเข้าฝั่ง เราจะดำเนินการอย่างมีความหวัง” พล.ร.อ. ชลธิศกล่าว

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising