วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก เขต 1 ในฐานะกรรมการบริหารพรรค และณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 25 บางขุนเทียน ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยมีทนายความ พิพัฒน์พงษ์ รุจิตานนท์ เพื่อยื่นฟ้อง ณฐพร โตประยูร ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดฐานแจ้งหรือกล่าวหาอันเป็นความเท็จว่าพรรคการเมืองกระทําความผิดกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 101 พ.ร.ป. พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และยื่นฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ในความผิดฐานหมิ่นประมาท จากกรณีที่ทั้งสองคนยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้สั่งยุบพรรคก้าวไกล ด้วยการให้ข้อมูลเท็จว่าพรรคก้าวไกลเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น
ณัฐวุฒิกล่าวว่าในวันนี้พรรคก้าวไกลได้มอบหมายให้ตน พร้อมด้วยปดิพัทธ์และณัฐชา ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพรรคก้าวไกลในการฟ้องคดีอาญาต่อจำเลยทั้งสองคน โดยแบ่งเป็นสองคดี คดีแรกคือยื่นฟ้องต่อ นพ.วรงค์ ที่กระทำความผิดจำนวน 2 ครั้ง ในครั้งแรกคือเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 โดยข้อหาของการกระทำความผิดส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องของการแถลงข่าวและการนำเข้าข้อมูลของเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Warong Dechgitvigrom ซึ่งทั้งหมดนั้นมีข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคก้าวไกล
“พรรคก้าวไกลจำเป็นต้องปกป้องสิทธิ เกียรติยศของพรรค และจำเป็นต้องปกป้องสมาชิกของพรรคที่ได้รับผลกระทบจากการให้ข้อมูลดังกล่าว กรณีของ นพ.วรงค์ นั้น ข้อหาที่เกี่ยวข้องจะเป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการหมิ่นประมาทตามมาตรา 326 ของประมวลกฎหมายอาญา และข้อหาตามมาตรา 328 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยขั้นตอนและกระบวนการในวันนี้เราจะมีการฟ้องในเชิงคดีอาญา มีการเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจำนวน 24,062,475 บาท และเรียกร้องให้หยุดพฤติการณ์ที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย” ณัฐวุฒิกล่าว
ณัฐวุฒิกล่าวต่อไปว่า ในคดีที่สองที่พรรคก้าวไกลยื่นฟ้องต่อณฐพร กรณีที่อ้างว่าเคยเป็นที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง และในกรณียื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในลักษณะกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลมีการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมายคือ พ.ร.ป. พรรคการเมือง กรณีของณฐพรนั้น ตนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาท เป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน และข้อหาสำคัญที่อาจจะไม่เคยมีใครดำเนินการมาก่อนคือตามมาตรา 101 พ.ร.ป. พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 คือข้อหาในลักษณะกล่าวหาพรรคการเมืองโดยตนเองรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ ซึ่งตนเรียกเรียกร้องให้มีการหยุดการกระทำดังกล่าว และเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจำนวน 24,062,475 บาทเช่นเดียวกัน
“พรรคก้าวไกลหวังว่ากรณีการฟ้องคดีนั้นเป็นการปกป้องสิทธิของพรรค ขอให้หยุดพฤติการณ์การกระทำดังกล่าว และเพื่อไม่ให้บุคคลทั้งสองไปกระทำการลักษณะเช่นนี้อีกกับบุคคลอื่นหรือพรรคการเมืองอื่น ซึ่งเป็นการทำลายสถาบันการเมือง ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่มีการติชมข้อความที่เหมาะสมและถูกต้องต่างๆ วันนี้ตนทั้ง 3 คนจะเป็นตัวแทนของพรรคในการฟ้องคดีต่อศาลโดยมิได้มีการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนก่อน เพราะเรามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และขอให้ศาลเป็นที่พึ่งว่าจะพิจารณาและดำเนินการอย่างไรต่อไป” ณัฐวุฒิกล่าว
ทั้งนี้ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวต่อไปว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลยื่นฟ้องเป็นความผิดทางคดีอาญา ในส่วนโทษจำคุกนั้นต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม โดยเราในฐานะผู้ถูกกระทำมีหน้าที่พิสูจน์ความจริง พิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าเราได้รับผลกระทบจากกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่ากรณีความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น เมื่อวานนี้ (10 กุมภาพันธ์) พรรคก้าวไกลได้ยื่นแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะเรามองว่าการแสดงความเห็นที่ถูกต้องเหมาะสมสามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น โดยพรรคก้าวไกลหวังแต่เพียงว่าจะได้รับความเป็นธรรมต่อกระบวนการยุติธรรมของศาล
หลังจากที่รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลพร้อมคณะเข้ายื่นคำร้องต่อศาลแล้วนั้น ปดิพัทธ์ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าศาลรับคำร้องทั้งสองคดี พร้อมนัดจำเลยไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรกในวันที่ 21 มิถุนายน 2564 โดยประทับคำร้องที่ฟ้องต่อ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ในคดีอาญาหมายเลข 307/2564 ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. และคำร้องฟ้องต่อ ณฐพร โตประยูร ในคดีอาญาหมายเลข 308/2564 ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 13.00 น.
หลังจากนี้ทางศาลจะมีการส่งสำเนาคำฟ้องไปยังจำเลยทั้งสองคน เมื่อจำเลยรับคำฟ้องแล้วก็จะเป็นกระบวนการในยื่นคำให้การต่างๆ โดยพยานจะแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ พยานเอกสาร พยานบุคคล คือพรรคก้าวไกล โดยทางฝ่ายกฎหมายของพรรคจะกลับไปหารืออีกครั้ง และพยานบุคคลแวดล้อมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองคดี โดยการไต่สวนมูลฟ้องจะเป็นการตรวจสอบแค่เบื้องต้นว่าคดีนี้มีมูลหรือไม่ และเมื่อศาลรับคดีอย่างเป็นทางการจึงจะมีการพิจารณาอีกครั้ง และหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมจากศาลอาญาในการรับและพิจารณาคดีต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์