กรณี Nasdaq 100 Index ซึ่งเป็น Index ที่ ETF ขนาดใหญ่อย่าง Invesco QQQ Trust (QQQ) ลงทุนล้อตามนั้น กำลังจะ Rebalance รอบพิเศษ เพื่อแก้ไขเรื่องการกระจุกตัวของ Index จากหุ้นบางกลุ่มในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ มอร์นิ่งสตาร์ (ประเทศไทย) ประเมินผลกระทบว่าจะทำให้ต้นทุนและภาษีของนักลงทุนเพิ่มขึ้น
Nasdaq 100 Index คืออะไร
Nasdaq 100 Index ประกอบไปด้วย 100 บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงิน หรือส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็น Benchmark ของ ETF และ Mutual Fund ต่างๆ ทั่วโลก โดยขนาดเงินลงทุนตาม Nasdaq 100 นี้สูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยที่การลงทุนภายใต้ QQQ ตัวเดียวก็สูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์แล้ว
การทำ Rebalance รอบพิเศษ
การทำ Rebalance รอบพิเศษถูกกำหนดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้เพื่อรักษาความเหมาะสมของดัชนี ซึ่งจะไม่มีการเพิ่มหรือลดหลักทรัพย์ แต่จะปรับลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดแทน โดยการ Rebalance ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่เคยเกิดขึ้นในปี 1998 และ 2011
อะไรเป็นสาเหตุให้เกิดการ Rebalance?
ช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ตลาดหุ้นโดยรวมและดัชนี Nasdaq 100 ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยหุ้นกลุ่ม Growth Stocks เหล่านี้ หรือที่ถูกเรียกว่า Magnificent Seven ซึ่งได้แก่
- Microsoft (MSFT) (ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี +38.93%)
- Apple (AAPL) (+45.52%)
- NVIDIA (NVDA) (+188.68%)
- Amazon.com (AMZN) (+51.35%)
- Tesla (TSLA) (+118.87%)
- Meta Platforms (META) (+144.39%)
- Alphabet Class A (GOOGL) (+31.98%) และ Class C (GOOG) (+31.71%)
ซึ่งการปรับเพิ่มขึ้นของราคาที่ผ่านมาทำให้บริษัททั้ง 7 นี้มีผลต่อน้ำหนักปัจจุบันในดัชนี Nasdaq 100 Index รวมกันสูงถึง 55% ของดัชนี
อะไรจะเปลี่ยนแปลงในวันที่ 24 กรกฎาคม?
ที่ผ่านมา Nasdaq 100 Index มีน้ำหนักกระจุกตัวอยู่ในหุ้นแค่บางกลุ่มมานานแล้ว การทำ Rebalance รอบพิเศษนี้จึงจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องดังกล่าว ทำให้คาดว่าน้ำหนักของกลุ่ม Magnificent Seven จะถูกปรับลดลง แต่ก็คาดว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากสัดส่วนรวมในปัจจุบันที่มีค่ารวมกันเกินกว่า 50% ของดัชนี โดย Nasdaq จะประกาศแผนการก่อนที่จะ Rebalance จริงประมาณหนึ่งสัปดาห์
การบริหารกองทุนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?
กองทุนที่ลงทุนล้อตาม Nasdaq 100 Index จะต้องขายหุ้นหลักๆ ที่ถืออยู่ตามดัชนีออกไป และซื้อหุ้นตัวอื่นเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอตามดัชนี ซึ่งรายการซื้อขายดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้
ผลกระทบต่อนักลงทุน
นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนที่ล้อตาม Nasdaq 100 Index จะพบว่าพอร์ตโฟลิโอมีการปรับเปลี่ยนไป และจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นต่อกองทุนจากการทำรายการซื้อขายหุ้นเพื่อ Rebalance รวมถึงมีภาษีจ่ายจากการขายหุ้นของกองทุนในกลุ่มที่มีราคาหุ้นปรับขึ้นมามากออกไป ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทุนได้เล็กน้อย รวมไปถึงนักลงทุนทั่วไปในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบทางอ้อมไปด้วยจากการ Rebalance ครั้งนี้ จากการที่หุ้นในตลาดจะถูกซื้อและขายจำนวนมากกว่าพันล้านดอลลาร์ในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี การทำ Rebalance ครั้งนี้เกิดกับหุ้นกลุ่มที่มีสภาพคล่องสูง ทำให้มีผลกระทบต่อราคาหุ้นจำกัด
โดยกำหนดการทำ Rebalance มีดังนี้
- วันที่ 7 กรกฎาคม ประกาศการทำ Rebalance รอบพิเศษ
- วันที่ 14 กรกฎาคม แจ้งรายละเอียดของดัชนีที่จะเปลี่ยนแปลงจากการทำ Rebalance
- วันที่ 24 กรกฎาคม ทำการ Rebalance รอบพิเศษ และมีผลบังคับใช้ก่อนตลาดเปิด