วันนี้ (9 สิงหาคม) เมื่อเวลา 16.00 น. นภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย โชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางเข้าพบ เฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ในนามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประเทศไทย รวมถึงการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยา
จากกรณีนักท่องเท่ียวสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ นิโคล โซเวน ไวสครอปฟ์ อายุ 57 ปี ซึ่งเดินทางมาประเทศไทยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต ภายใต้โครงการ Phuket Sandbox และได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้ถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2564 แต่พบว่าถูกทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เสียชีวิตบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเช่ือมั่นด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ภายหลังเกิดเหตุ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดมารับโทษให้ได้โดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำให้ทกุส่วนราชการเพิ่มความเข้มงวดดูแลนักท่องเที่ยวตามโครงการ Phuket Sandbox ให้มากย่ิงข้ึน
นภินทรกล่าวว่า การเดินทางเข้าพบหารือกับเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ในวันน้ี นอกจากจะเป็นการแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว ก็ได้แจ้งถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตโดยกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเท่ียวชาวต่างชาติ ซึ่งเมื่อเช้าวันน้ี โชติ ตราชู ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นวาระพิเศษ เพื่อพิจารณาอนุมัติเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์จำนวน 1 ล้านบาท รวมถึงการอำนวยความสะดวกกรณีญาติผู้เสียชีวิตประสงค์จะเดินทางมารับศพ
นอกจากนี้ ก็ได้แจ้งถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายหลังจากที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมประชุมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ข้อสรุปท่ีจะยกระดับความเข้มข้นด้านความปลอดภัยให้มากข้ึน เพื่อดูแลนักท่องเท่ียวตามโครงการ Phuket Sandbox ได้แก่ การเพิ่มจำนวนกล้อง CCTV ตามแหล่งท่องเท่ียวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต การเพิ่มจำนวนอาสาสมัครที่ช่วยดูแลนักท่องเที่ยว และเพิ่ม 2 มาตรการเร่งด่วนที่จะดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเท่ียว ได้แก่
มาตรการที่ 1 เร่งการสำรวจสถานที่ท่องเท่ียว หากไม่เป็นที่นิยมหรือเป็นจุดอับท่ีไม่มีกำลังเจ้าหน้าท่ีไปดูแลเพียงพอ จะปิดสถานท่ีดังกล่าว และจะประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยสื่อของการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย
มาตรการที่ 2 ยกระดับมาตรการความเข้มข้นในการเดินทางเข้าพื้นท่ีจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะบริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจะต้องถูกตรวจสอบทุกคน โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีหมายจับ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความรู้สึกว่าถูกละเมิดสิทธิ์ แต่จำเป็นต้องเข้มข้นในช่วงระยะเวลานี้ จากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
“แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมคนร้ายได้ แต่ไม่อาจทดแทนกับความสูญเสียของครอบครัวผู้เสียชีวิตไปได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็จะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และจะจัดเจ้าหน้าที่ทั้งจากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (ศูนย์ TAC) และตำรวจท่องเท่ียว เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินภูเก็ต เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกมาตรการความเข้มข้นจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และหวังว่าประชาชนชาวสวิตเซอร์แลนด์จะมีความเข้าใจและเห็นความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะดูแลรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหวังว่านักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์จะยังคงมีความเชื่อมั่นที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในอนาคต” นภินทรกล่าว