วันนี้ (5 ธันวาคม) เมื่อเวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 98 อำเภอ 529 ตำบล 3,633 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 383,669 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 13 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 6 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, กระบี่, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง และสงขลา ระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – ปัจจุบัน (5 ธันวาคม 2563 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย รวม 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส รวม 98 อำเภอ 529 ตำบล 3,633 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 383,669 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 13 ราย ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 6 จังหวัด 66 อำเภอ 382 ตำบล 2,680 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 321,057 ครัวเรือน ดังนี้
สุราษฎร์ธานีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 16 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี, กาญจนดิษฐ์, วิภาวดี, ท่าฉาง, บ้านนาเดิม, เคียนซา, ชัยบุรี, พุนพิน, เวียงสระ, คีรีรัฐนิคม, ไชยา, ท่าชนะ, ดอนสัก, พนม, บ้านนาสาร และพระแสง รวม 109 ตำบล 850 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,128 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
กระบี่น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเขาพนม รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 54 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
นครศรีธรรมราชน้ำท่วมขังในพื้นที่ 23 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช, ลานสกา, เชียรใหญ่, เฉลิมพระเกียรติ, ชะอวด, ปากพนัง, จุฬาภรณ์, หัวไทร, สิชล, นบพิตำ, ท่าศาลา, ขนอม, นาบอน, ทุ่งสง, ร่อนพิบูลย์, ทุ่งใหญ่, บางขัน, พิปูน, ฉวาง, พรหมคีรี, ถ้ำพรรณา, ช้างกลาง และพระพรหม รวม 145 ตำบล 1,049 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 184,750 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ตรังน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง, นาโยง, ห้วยยอด, รัษฎา, วังวิเศษ และกันตัง รวม 23 ตำบล 99 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,968 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
พัทลุงน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง, ป่าบอน, ควนขนุน, ป่าพะยอม, เขาชัยสน, ปากพะยูน และบางแก้ว รวม 33 ตำบล 244 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,284 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
สงขลาน้ำท่วมขังในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา, จะนะ, สะเดา, หาดใหญ่, ควนเนียง, สิงหนคร, นาหม่อม, รัตภูมิ, บางกล่ำ, สทิงพระ, ระโนด, กระแสสินธุ์ และคลองหอยโข่ง รวม 70 ตำบล 435 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 56,873 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ทั้งนี้ ทาง ปภ. ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย พื้นที่ใกล้เคียง พื้นที่อื่นๆ สนับสนุนการเผชิญเหตุ โดยระดมกำลังพลและทรัพยากรด้านสาธารณภัย อาทิ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือไฟเบอร์ รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถสุขาเคลื่อนที่ รถประกอบอาหาร รถไฟฟ้าส่องสว่าง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล