ศาลฎีกาของมาเลเซียพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 12 ปี ในความผิดฐานทุจริตมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่เกี่ยวกับการยักยอกเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ 1Malaysia Development Berhad หรือ 1MDB ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ในการอุทธรณ์ครั้งสุดท้ายของนาจิบ และส่งผลให้เขาถูกส่งเข้าเรือนจำทันที
คำตัดสินของศาลฎีกามาเลเซีย (Federal Court) ถือเป็นการยุติคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับกองทุน 1MDB โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 นาจิบถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 12 ปี ด้วยความผิดหลายข้อหา ทั้งข้อหาละเมิดต่อหน้าที่ การใช้อำนาจในทางที่ผิด และการฟอกเงิน หลังรับเงิน 10 ล้านดอลลาร์อย่างผิดกฎหมายจากบริษัท SRC International ซึ่งเคยเป็นหน่วยงานหนึ่งของ 1MDB อย่างไรก็ดี เขาได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
พนักงานสืบสวนกล่าวว่า เงินจำนวน 4.5 พันล้านดอลลาร์ถูกขโมยไปจากกองทุน 1MDB ซึ่งนาจิบเป็นผู้ร่วมก่อตั้งในปี 2009 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และพบว่าเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ถูกโอนเข้าบัญชีหลายบัญชีที่เชื่อมโยงกับนาจิบ
ทั้งนี้ นอกจากโทษจำคุกแล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังถูกปรับ 210 ล้านริงกิต (46.84 ล้านดอลลาร์) ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาจิบวัย 69 ปี สวมสูทและเนกไทสีเข้ม นั่งอยู่ในคอกจำเลยขณะที่ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษา โดยมี รอสมาห์ มานซอร์ ภรรยาของเขา ซึ่งถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชันเช่นกัน และลูกสามคนนั่งอยู่ทางด้านหลังของนาจิบ
หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าล้อมอดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากศาลในรถสีดำพร้อมตำรวจคุ้มกัน
เจ้าหน้าที่ศาลและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับนาจิบเปิดเผยว่า เขาถูกนำตัวไปยังเรือนจำ Kajang ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ประมาณ 40 กิโลเมตร
อาดิบ ซัลคัปลี ผู้อำนวยการบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง BowerGroupAsia กล่าวว่า “เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นาจิบจะถูกจดจำในฐานะนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด”
นาจิบเกิดในตระกูลชนชั้นสูงและได้รับการศึกษาจากสหราชอาณาจักร เขาก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในระหว่างปี 2009-2018 ก่อนที่ความโกรธเคืองของประชาชนต่อคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับการยักยอกเงินกองทุน 1MDB จะทำให้เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้ง และตามมาด้วยการถูกตั้งข้อหาทุจริตหลายสิบข้อหา
อันวาร์ อิบราฮิม แกนนำฝ่ายค้าน กล่าวว่า คำตัดสินของศาลพิสูจน์ให้เห็นถึงอำนาจของประชาชน
“เมื่อปี 2018 ประชาชนตัดสินใจเพื่อให้ตุลาการเป็นอิสระ และประเทศปลอดจากการให้สินบน การตัดสินใจดังกล่าวของประชาชนทำให้กระบวนการพิจารณาคดีดำเนินไปอย่างมืออาชีพ” เขากล่าว
ภาพ: Mohd Firdaus / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: