วันนี้ (22 พฤศจิกายน) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเปลี่ยนตัวกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร จาก ดล เหตระกูล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา มาเป็น ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยยอมรับว่าจะส่งไพบูลย์เข้าไปในกรรมาธิการชุดนี้
แต่ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการย้อนเกล็ด พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. แต่เพราะไพบูลย์มีความรู้ด้าน ป.ป.ช.
นักข่าวถามย้ำว่า การส่ง ส.ส. สายบู๊เข้าไปจะกลายเป็นการปะทะในกรรมาธิการหรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้ปะทะ แต่ต้องดูว่าข้อกฎหมายใครแม่นกว่ากัน
ส่วนกรณีฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 ป. นั้น พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็ว่าไป ให้ทางสภาผู้แทนราษฎรเขาว่ากันก่อน ส่วนตัวพร้อมอยู่แล้ว เราไม่ได้ทำอะไร
ขณะที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งลาออกจากตำแหน่งรองประธาน กมธ. ของ ดล เหตระกูล รองเลขาธิการพรรคชาติพัฒนา ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ ไพบูลย์ นิติตะวัน มาทำหน้าที่แทน เชื่อว่าเป็นการกดดันเปลี่ยนตัวจากจากฝั่งรัฐบาล โดยมีเป้าหมายคล้ายกับการเปลี่ยนตัวให้ สิระ เจนจาคะ และ ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. พลังประชารัฐเข้ามา จนเกิดภาพความวุ่นวายตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าเสียง ส.ส. ฝั่งรัฐบาลในคณะกรรมาธิการที่เพิ่มขึ้น จะไม่มีผลต่อการลงมติปลดประธาน โดยย้ำว่าคณะกรรมาธิการชุดนี้เป็นโควตาของฝ่ายค้าน และไม่มีกฎหมายใดรองรับให้สามารถปลดจากตำแหน่งได้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า