เด็กสายตาสั้นไวเกินไปจริงไหม?
เนื่องจากในทุกวันนี้ เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีจำนวนมากถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะสายตาสั้นเร็วกว่าที่เคยเป็นมา สถิติระดับโลกและในเอเชียบ่งชี้ว่า เด็กยุคใหม่จำนวนมากสายตาสั้นตั้งแต่ระดับอนุบาล และเมื่อเริ่มสั้นเร็ว โอกาสพัฒนาเป็นสายตาสั้นรุนแรง (High Myopia)¹ ² ก็ยิ่งสูงตามไปด้วย
ในเมืองไทยเอง จักษุแพทย์เริ่มพบเด็กที่มีระดับสายตาสั้นเกิน -5.00D ตั้งแต่อายุไม่ถึง 10 ปี สร้างความกังวลให้ผู้ปกครองไม่น้อย เพราะสายตาสั้นไม่ใช่แค่เรื่องการมองเห็นชัดหรือไม่ชัดอีกต่อไป แต่มันเกี่ยวข้องกับโครงสร้างตา การยืดของกระบอกตา และโรคตาในอนาคต
สายตาสั้น: วิกฤตเงียบของโลกยุคใหม่
องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า ภายในปี 2050 มากกว่าครึ่งของประชากรโลกจะมีภาวะสายตาสั้น และในบางประเทศแถบเอเชีย อัตรานี้อาจสูงถึง 80–90% โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น²
สาเหตุหลักของแนวโน้มนี้คือการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เด็กอยู่แต่ในบ้าน ใช้เวลาหน้าจอมากขึ้น และมีกิจกรรมกลางแจ้งน้อยลง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของลูกตาและการเกิดสายตาสั้น³
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ “สายตาสั้นไม่ใช่เรื่องอันตราย” แต่ในความเป็นจริง แม้จะเป็นสายตาสั้นเพียงเล็กน้อย (เช่น -1.00D) ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น จอตาเสื่อม ต้อหิน ต้อกระจก จอตาหลุดลอก และอาจถึงขั้นตาบอดได้ในอนาคต4
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญ: สายตาสั้นควรจัดการตั้งแต่ยังเด็ก
“เด็กที่สายตาสั้นเร็วตั้งแต่วัยประถม มักจะมีโอกาสพัฒนาไปสู่สายตาสั้นรุนแรงได้ภายในเวลาไม่กี่ปี” พญ. เตือนใจ วงศ์วรเศรษฐ์ จาก Vora Visions กล่าว พร้อมย้ำว่าการจัดการสายตาสั้นแต่เนิ่นๆ ไม่เพียงแค่ช่วยเรื่องการมองเห็น แต่ยังเป็นการลดความเสี่ยงโรคตาในอนาคต
ดร.มายูมิ ฟาง จาก EssilorLuxottica ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือการติดตามทั้งค่าดิออปเตอร์ และการยืดของกระบอกตา (Axial Length) เพราะการยืดของตาเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่จอประสาทตาจะบางลงหรือเสียหายได้ในอนาคต”
ดร.มายูมิ ฟาง
นักทัศนมาตรและผู้จัดการฝ่ายวิชาการและการอบรมจาก EssilorLuxottica ประเทศไทย
ที่น่าตกใจคือ เด็กบางคนมีค่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้นถึง 1–2 ไดออปเตอร์ภายในหนึ่งปี ทั้งที่ไม่มีอาการหรือบ่นอะไรเลย นั่นแสดงให้เห็นว่าการตรวจสุขภาพตาเชิงรุกจึงมีความสำคัญมาก
เบื้องหลังนวัตกรรม: เทคโนโลยี H.A.L.T. และโครงสร้าง 11 วงแหวน
เลนส์ Essilor® Stellest® ใช้เทคโนโลยี H.A.L.T. (Highly Aspherical Lenslet Target) ซึ่งประกอบด้วยเลนส์ขนาดเล็กพิเศษ (Lenslets) แบบทรงแอสเพียริก 11 วงแหวน เรียงอยู่บนพื้นผิวของเลนส์ ไม่ว่าเด็กจะมองตรงหรือมองข้าง เลนส์นี้จะยังคงทำหน้าที่ควบคุมการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นอยู่ตลอดเวลา
โครงสร้างนี้สร้าง “ปริมาตรของแสงที่ไม่โฟกัส” ด้านหน้าของเรตินา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้กระบอกตาหยุดยืดยาว เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่แค่แก้ไขค่าสายตา แต่ยังทำงานร่วมกับชีววิทยาของกระบอกตาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ
สิ่งสำคัญคือ เลนส์ควบคุมสายตาสั้นที่ผ่านการรับรองทางคลินิก จะช่วยให้ผู้ปกครองตัดสินใจจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่คำโฆษณา
Essilor® Stellest®: พิสูจน์แล้วว่าสามารถชะลอการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้น
เลนส์ Essilor® Stellest® ซึ่งพัฒนาโดย EssilorLuxottica ไม่ได้แค่ช่วยให้มองเห็นชัด แต่ยังเน้นที่การควบคุมความยาวกระบอกตา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสายตาสั้นรุนแรง
ข้อมูลจากการศึกษาทางคลินิก 6 ปี โดยมหาวิทยาลัยแพทย์เหวินโจว ประเทศจีน ระบุว่า
เด็กที่ใส่เลนส์ Stellest® เฉลี่ยวันละ 12 ชั่วโมง มีสายตาสั้นเพิ่มน้อยลงเฉลี่ย 1.95 ไดออปเตอร์ (57%) และความยาวกระบอกตาเพิ่มน้อยลง 0.81 มิลลิเมตร (52%) เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ใส่เลนส์ทั่วไป โดยอิงข้อมูลจากการทดลองช่วง 2 ปีแรก
ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าเลนส์ Stellest® ให้ประสิทธิภาพต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 19 ปี เป็นความหวังใหม่ของการดูแลสุขภาพตาในระยะยาว
แม้แต่เด็กที่เพิ่งเปลี่ยนจากเลนส์ทั่วไปมาใช้ Stellest® ก็ยังเห็นความชะลอตัวของสายตาสั้นได้อย่างชัดเจน แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของเลนส์นี้
ภาพผู้บริหารทีมเอสซีลอร์สเตลเลสต์ถ่ายรูปร่วมกับพี่น้องฝาแฝดสายลมและก้อนเมฆจากเพจเรไรรายวัน
มุมมองของแม่: เมื่อต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก
ชนิดา สุวีรานนท์ แม่ของน้องสายลมและก้อนเมฆ จากเพจ “เรไรรายวัน” เผยว่า “ตอนแรกก็แค่คิดว่าเปลี่ยนแว่นให้ลูกใหม่เฉย ๆ แต่พอหมออธิบายว่าเลนส์ Essilor® Stellest® สามารถชะลอสายตาสั้นได้จริง มันทำให้เรารู้สึกว่าควรเลือกสิ่งที่ป้องกันไว้ก่อน”
เธอเล่าต่อว่า “หลังจากเปลี่ยนมาใช้ Essilor® Stellest® ไปได้ 17 เดือน ค่าสายตาของลูกเพิ่มขึ้นแค่ 0.25D เท่านั้น จากเดิมที่เพิ่มขึ้นถึง 1.00D ในช่วงเวลาเท่ากัน เราเห็นว่าลูกทำกิจกรรมได้เหมือนเดิม ไม่มีข้อจำกัด แถมยังมั่นใจมากขึ้นเพราะมองเห็นชัดขึ้น”
ประสบการณ์แบบนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพตา แต่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการโดยรวมของเด็ก ทั้งในด้านอารมณ์ การเรียนรู้ และความสัมพันธ์กับเพื่อน
EssilorLuxottica: ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตแว่น แต่คือพันธมิตรของสุขภาพสายตา
EssilorLuxottica เป็นองค์กรระดับโลกที่ผสานความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ของเลนส์เข้ากับความเข้าใจในพฤติกรรมผู้ใช้ โดยเลนส์ Essilor® Stellest® เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความมุ่งมั่นระยะยาวในการยกระดับคุณภาพการมองเห็นสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะสำหรับเด็ก บริษัทเน้นนวัตกรรมที่เข้าถึงได้จริง พร้อมทั้งข้อมูล ความรู้ และเทคโนโลยี เพื่อให้พ่อแม่สามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพตาของลูก
Essilor® Stellest® จึงไม่ใช่แค่เลนส์ แต่คือคำมั่นสัญญาว่าเด็กไทยจะมีอนาคตที่ชัดเจนกว่าที่เคย
รับชมวิดีโอ: https://youtu.be/F83InwlzxHA
อ้างอิง:
- *Two-year prospective, controlled, randomized, double-masked clinical trial results on 54 myopic children wearing Essilor® Stellest® lenses compared to 50 myopic children wearing single vision lenses in Wenzhou China. Results based on 32 children from the Test Group wearing Essilor® Stellest® lenses at least 12 hours per day every day for two consecutive years
- 1 Yingyong, P. (2010). Refractive errors survey in primary school children (6-12 year old) in 2 provinces: Bangkok and Nakhonpathom (one year result). Medical journal of the Medical Association of Thailand, 93(10), 1205.
- 2 Holden BA, Fricke TR, Wilson DA, et al. Global Prevalence of Myopia and High Myopia and Temporal Trends from 2000 through 2050. Ophthalmology. 2016;123(5):1036-1042. doi:10.1016/j.ophtha.2016.01.006
- 3 Dhakal R, Shah R, Huntjens B, Verkicharla PK, Lawrenson JG. Time spent outdoors as an intervention for myopia prevention and control in children: an overview of systematic reviews. Ophthalmic Physiol Opt. 2022;42(3):545-558. doi:10.1111/opo.12945
- 4 Haarman AEG, Enthoven CA, Tideman JWL, Tedja MS, Verhoeven VJM, Klaver CCW. The Complications of Myopia: A Review and Meta-Analysis. Invest Ophthalmol Vis Sci. 2020;61(4):49. doi:10.1167/iovs.61.4.49
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: