รัฐบาลเงาของเมียนมากล่าวว่า จะนำคริปโตอย่างสกุลเงินอิงมูลค่าดอลลาห์ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง ‘Tether’ มาใช้ในฐานะสื่อกลางการแลกเปลี่ยน เพื่อให้สะดวกต่อการระดมทุนเพื่อการปฏิวัติจากรัฐบาลเผด็จการทหารและการชำระเงิน
โดยรัฐบาลเงาดังกล่าวเป็นกลุ่ม National Unity Government (NUG) ประกอบไปด้วยฝ่ายประชาธิปไตยและส่วนที่ถูกทิ้งไว้ของรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งเกิดขึ้นมาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดความเสรีในประเทศ
การกระทำที่ผ่านมาของกลุ่ม NUG ทำให้ทางรัฐบาลหลักของเมียนมาได้มอง NUG ในฐานะกลุ่มของผู้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
ทิน ทุน เนียง หัวหน้ากลุ่ม NUG ได้รับหน้าที่ให้ดูแลการวางแผนทางด้านการเงินและการลงทุน ได้ออกมาโพสต์ข้อความส่วนตัวผ่านทาง Facebook เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า NUG จะเข้ามารับ USDT อย่างเป็นทางการ เพื่อความเข้าถึงที่มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น
โดย USDT สามารถโอนไปมาในเครือข่ายบล็อกเชนได้เช่นเดียวกับ Bitcoin และคริปโตอื่นๆ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐบาลตรวจสอบได้ยาก
จากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหาทางด้านการเงินและนโยบายทางการเงินของรัฐบาลเมียนมาเป็นอย่างมาก จากการที่กลุ่มดังกล่าวออกมาสนับสนุนกลุ่มคนให้ไม่จ่ายภาษีและร่วมการชุมนุม รวมถึงการออกมาไม่สนับสนุนธุรกิจของรัฐบาลเผด็จการ
ซึ่งทำให้หน่วยงาน NUG ดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของรัฐบาลได้ จึงได้เริ่มออกพันธบัตรให้แก่ต่างชาติเพื่อการระดมทุน
ในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ค่าเงินเมียนมาหรือที่รู้จักกันในนาม ‘จัต’ ร่วงไปกว่า 60%
เพื่อแก้ปัญหาความผันผวนของค่าเงิน ทางหน่วยงาน NUG จึงเริ่มนำ USDT มาใช้ในการทำธุรกรรม เพื่อให้ปลอดภัยและมั่นคงในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น
อ้างอิง: