“Plus Ultra!”
สองคำสั้นๆ ที่เราใช้บรรยายความรู้สึกทั้งหมดหลังจากได้รับชม My Hero Academia The Movie: วีรบุรุษกู้โลก จบลง พร้อมกับหัวใจของซูเปอร์ฮีโร่ที่พลุ่งพล่านขึ้นมา
เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาสร้างความสนุกให้กับแฟนๆ มังงะ My Hero Academia ในฉบับของภาพยนตร์แอนิเมชันได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากภาคแรก My Hero Academia The Movie: กำเนิดใหม่ 2 วีรบุรุษ ได้เล่าเรื่องราว Side Story ของ ออลไมต์ จัดเต็มด้วยฉากแอ็กชันดุเดือดจนสามารถกวาดรายได้ทั่วโลกไป 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018
My Hero Academia The Movie: วีรบุรุษกู้โลก ก็เรียกได้ว่าเป็นการ ‘ส่งต่อ’ ความดุเดือดของฉากแอ็กชันและหัวใจสำคัญของเนื้อเรื่องได้อย่างสนุกสนาน เข้มข้น และประทับใจได้ไม่แพ้ภาคแรก
ภาพยนตร์เรื่อง My Hero Academia The Movie: กำเนิดใหม่ 2 วีรบุรุษ (2018)
เรื่องราวในภาคนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันหนึ่ง มิโดริยะ อิซึคุ และเหล่านักเรียนปี 1 ห้อง A ได้รับภารกิจให้เดินทางไปยังเกาะนาบุทางตอนใต้ที่เงียบสงบ เพื่อเข้าร่วมโปรเจกต์ส่งเสริมการปฏิบัติภารกิจฮีโร่โดยไม่มีฮีโร่มือโปรมาคอยดูแล
แต่แล้วความสงบสุขก็ต้องพังทลายลง เมื่อ ไนน์ วิลเลิน ตัวร้ายผู้มีอัตลักษณ์ (ชื่อเรียกพลังพิเศษใน My Hero Academia) อันแข็งแกร่งเดินทางมาถึงเกาะนาบุ และเป็นหน้าที่ของเหล่าฮีโร่วัยเยาว์ที่จะต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องผู้คนจากเหล่าวิลเลินให้จงได้
แม้ว่าพล็อตเรื่องจะมีความคลิเช ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็ยังรักษากลิ่นอายของการ์ตูนโชเน็น (การ์ตูนเด็กผู้ชาย) เอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องราวมิตรภาพของมิโดริยะและเหล่าฮีโร่จากปี 1 ห้อง A และการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างมิโดริยะและกลุ่มตัวร้ายใหม่ที่นำโดย ไนน์ วิลเลิน ผู้สามารถใช้อัตลักษณ์ได้ถึง 9 ชนิด
สิ่งที่เราชื่นชอบมากๆ เป็นการส่วนตัวของภาคนี้คือฉากต่อสู้และการโชว์ความสามารถของเหล่าสมาชิกจากปี 1 ห้อง A ทั้ง 20 คนกันแบบไม่มีกั๊ก ทั้งการประสานงานกันเป็นทีมที่สนุกสนานไม่แพ้เรื่องราวในภาคสอบใบอนุญาตชั่วคราว
โดยเฉพาะการร่วมมือกันระหว่าง มิโดริยะ และบาคุโก คัตสึกิ ที่เราเชื่อว่าแฟนๆ มังงะ (รวมถึงตัวผู้เขียน) ต่างเฝ้ารอที่จะได้เห็นเพื่อนรักเพื่อนแค้นคู่นี้ร่วมกันต่อสู้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตราตรึงใจ
รวมทั้งคาแรกเตอร์และความสามารถของฝั่งวิลเลินก็ถูกออกแบบมาได้อย่างมีเสน่ห์ไม่แพ้ฝั่งตัวเอก โดยเฉพาะอัตลักษณ์และความแข็งแกร่งของไนน์ที่เรียกได้ว่าเวอร์วังสมกับการเป็นบอสประจำภาค ช่วยส่งให้ฉากแอ็กชันช่วงสุดท้ายของเรื่องดุเดือดและอลังการงานสร้างสุดๆ
ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ นากาซากิ เคนจิ ผู้กำกับจากภาคแรกและ Bone สตูดิโอผู้ผลิตแอนิเมชันคุณภาพมากมาย เช่น Fullmetal Alchemist Brotherhood, Bungo Stray Dogs, Mob Psycho ฯลฯ รวมถึง My Hero Academia ฉบับซีรีส์ทั้ง 3 ซีซันที่สร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาได้อย่างละเมียดละไมในทุกเฟรม
อย่างไรก็ตาม ภายใต้งานภาพที่งดงามและฉากแอ็กชันที่ดุเดือด My Hero Academia The Movie: วีรบุรุษกู้โลก ก็ยังคงไม่ทิ้งหัวใจสำคัญของเรื่อง ที่แม้เห็นมาแล้วกี่ครั้ง แต่ก็ยังสร้างความประทับใจให้เราได้เสมอ
นั่นคือการส่งมอบจิตวิญญาณของ ‘ฮีโร่’ ที่มุมานะในการทำบางสิ่งอย่างตั้งใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่ถาโถม มีจิตใจที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่น และยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรมให้กับผู้คนที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นฮีโร่
เราขอหยิบยกหนึ่งในประโยคของออลไมต์จากมังงะที่น่าจะเป็นการอธิบายความหมายของการเป็นฮีโร่ได้ดีที่สุด เพราะทุกคนก็สามารถเป็นฮีโร่ในโลกความเป็นจริงได้เช่นกัน
“โลกสวยเหรอ นั่นล่ะดีแล้ว เพราะมันเป็นหน้าที่การงานของฮีโร่ที่ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อทำเรื่องโลกสวยให้เป็นจริงยังไงล่ะ”
My Hero Academia The Movie: วีรบุรุษกู้โลก เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันนี้ ในโรงภาพยนตร์
สามารถรับชมตัวอย่างได้ทาง
https://www.youtube.com/watch?v=H9lS4-uIZMY&feature=emb_title
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: