×

‘มูเกช อัมบานี’ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย กำลังร่างพิมพ์เขียวเพื่อเตรียมส่งต่ออาณาจักรธุรกิจให้ทายาท ป้องกันการทะเลาะกันในครอบครัว

25.11.2021
  • LOADING...
Mukesh Ambani

ปัญหาของคนรวยอย่างหนึ่งคือ การที่ครอบครัวมหาเศรษฐีหลายครอบครัวต่างหาวิธีที่จะส่งมอบความมั่งคั่งสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเราเองมีมูลค่าของธุรกิจครอบครัวรวมมากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีมูลค่ารวมทั้งหมดราว 5.8 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 191 ล้านล้านบาท เป็นรองเพียงภูมิภาคอเมริกาเหนือที่มีมูลค่ารวม 7.1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 234 ล้านล้านบาท 

 

‘ตระกูลอัมบานี’ ครอบครัวมหาเศรษฐีชาวอินเดีย ที่นิตยสาร Forbes จัดให้เป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย โดยผู้นำครอบครัวอย่าง มูเกช อัมบานี ประธานผู้อำนวยการจัดการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท Reliance Industries Ltd. ซึ่งเป็นธุรกิจด้านพลังงานและโรงกลั่นน้ำมัน และมีบริษัทในเครืออีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น ปิโตรเคมี โทรคมนาคม อีคอมเมิร์ซ และพลังงานสะอาด ซึ่งมูเกชมีความมั่งคั่งรวมถึง 9.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.1 ล้านล้านบาท และเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย

 

ผู้นำอาณาจักรธุรกิจตระกูลอัมบานีมูลค่ากว่า 2.08 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 6.8 ล้านล้านบาท อย่างมูเกช วัย 64 ปี กำลังวางแผนการสืบทอดอาณาจักรธุรกิจต่อให้คนในตระกูลรุ่นหลัง โดยกำลังเดินรอยตามตระกูลที่รวยที่สุดในโลกอย่างตระกูลวอลตัน ครอบครัวมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัท Walmart เครือร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกสัญชาติอเมริกัน 

 

ซึ่งหลังจากที่ผู้นำตระกูลวอลตันอย่าง แซม วอลตัน ได้เสียชีวิตลงในปี 1992 แซมได้จัดแจง 80% ของธุรกิจครอบครัวส่งต่อให้ลูกทั้ง 4 คนอย่าง อลิซ, ร็อบ, จิม, และจอห์น ซึ่งการแบ่งให้ลูกทั้ง 4 คนนั้น จะช่วยให้ภาษีด้านอสังหาริมทรัพย์ลดลง และลูกยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อีกด้วย ซึ่งแซมได้เตรียมการจัดแจงไว้ล่วงหน้าถึง 40 ปี ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลง 

 

โดยการจัดแจงของตระกูลวอลตันคือ จะให้คนในตระกูลนั่งในตำแหน่งบอร์ดบริหาร และจ้างซีอีโอหรือตำแหน่งอื่นๆ ที่ต้องจัดการงานวันต่อวัน จากภายนอกตระกูลเข้ามาดำเนินธุรกิจแทน ซึ่งแตกต่างจากการส่งต่อของธุรกิจครอบครัวตระกูลอื่น อย่างของอาณาจักรแฟชั่นระดับโลก Hermes หรือบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคอย่าง S.C. Johnson & Son Inc. ที่จัดแจงส่งต่อให้คนในตระกูลมาบริหารในตำแหน่งที่ต้องทำงานวันต่อวัน 

 

ในปัจจุบันตระกูลวอลตันถือหุ้นของ Walmart ประมาณ 47% ผ่านบริษัท Walton Enterprises LLC และกองทุนทรัสต์อื่นๆ ของตระกูล การที่ถือหุ้นมากเกือบ 50% ทำให้ผู้บริหารที่ถูกจ้างมารู้ตัวว่าอำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ส่วนไหนของบริษัท 

 

กลับมาที่ตระกูลอัมบานีของอินเดีย เดิมทีแล้วผู้นำตระกูลอัมบานีอย่างมูเกช ได้รับการสืบทอดอาณาจักรธุรกิจ Reliance จากพ่อที่เสียชีวิตอย่างกะทันหันในปี 2002 โดยที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ล่วงหน้า ทำให้เกิดความขัดแย้งในการแบ่งสมบัติกันในครอบครัวระหว่างพี่ชายซึ่งคือ มูเกช และน้องชายคือ อนิล 

 

โดยทั้ง 2 พี่น้องได้เข้ามาบริหารอาณาจักร Reliance ร่วมกัน โดยมูเกชเป็นประธาน และอนิลเป็นรองประธาน จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้ง 2 พี่น้องก็เริ่มตึงเครียดขึ้น เนื่องจากแต่ละคนดำเนินการต่างๆ ภายในองค์กรโดยที่ไม่มีการปรึกษากันก่อน ต่างคนต่างทำในแบบที่ตัวเองคิด 

 

จนกระทั่งปี 2005 แม่ของทั้งคู่ต้องเข้ามาแทรกแซงโดยแบ่งทรัพย์สินกันใหม่ โดยอนิลได้บริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจโทรคมนาคม, บริษัทบริหารสินทรัพย์, การบันเทิง และการผลิตไฟฟ้า ส่วนพี่ใหญ่อย่างมูเกช ได้บริษัทปิโตรเคมี น้ำมันและก๊าซ และการสิ่งทอ

 

กว่า 20 ปีที่มูเกชคุมอาณาจักร Reliance ซึ่งสามารถทำให้ Reliance เป็นศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ นอกจากนั้นยังมีการกระจายความเสี่ยงของบริษัทโดยการขยายธุรกิจเข้าไปทำในด้านการสื่อสารสัญญาณโทรศัพท์ในอินเดีย อีกยังร่วมมือกับ Amazon.com Inc. และ Walmart เพื่อขยายเข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซอีกด้วย 

 

ในปัจจุบัน Reliance มีมูลค่าสูงขึ้นมากกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2016 และยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในอินเดียอีกด้วย และ Reliance ซึ่งเป็นอาณาจักรเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยวางแผนที่จะเน้นลงทุนในพลังงานสะอาด ซึ่งมูเกชยังมีแผนว่าจะขายหุ้นบริษัทของเขาที่เกี่ยวกับน้ำมันและเคมีภัณฑ์ถึง 20% ให้กับบริษัท Saudi Arabian Oil Co. ภายใน 2 ปีนี้

 

โดยในปี 2019 ตระกูลอัมบานีได้เข้าถือหุ้นใน Reliance เพิ่มจาก 47.27% เป็น 50.6% ซึ่งภรรยาของมูเกช อย่าง นิตา อัมบานี และลูกๆ มีสัดส่วนการถือหุ้นที่เท่ากันทุกคน เพื่อป้องกันการทะเลาะกันในตระกูลอย่างที่มูเกชเคยเจอมา และการเข้าถือหุ้นเกิน 50% มากกว่าที่ตระกูลวอลตันถือ เนื่องจากบริษัทต่างๆในอินเดีย อำนาจจะมาจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ ซึ่งผู้ถือหุ้นสามารถแต่งตั้งหรือปลดกรรมการบริษัทได้

 

นอกจากตระกูลอัมบานีแล้ว ครอบครัวมหาเศรษฐีต่างๆ ก็กำลังจัดแจงวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งให้รุ่นลูกรุ่นหลานอย่างเป็นระบบ ป้องกันการทะเลาะกันในครอบครัว และเพื่อให้อาณาจักรของตระกูลดำเนินได้ต่อไปในอนาคต 

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X