×

MTC – ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล

07.09.2023
  • LOADING...
หุ้น MTC

เกิดอะไรขึ้น:

 

บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) คาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้นอีก แต่ยังคงเป้าที่จะรักษาอัตราส่วน NPL ไว้ในระดับไม่เกิน 3.5% (เทียบกับ 3.35% ณ 2Q66) ผ่านทางการเคลียร์งบดุล (ตัดหนี้สูญและขาย NPL) NPL ไหลเข้าจากสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ NPL ไหลเข้าจากสินเชื่อที่มีหลักประกันดูเหมือนจะสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่า 

 

บริษัทคาดว่า Credit Cost จะอยู่ที่ราว 3.5-3.9% ในปี 2566 (เทียบกับ 3.6% ใน 1H66) โดย Credit Cost จะยังอยู่ในระดับสูงใน 2H66 เพื่อรองรับการตัดหนี้สูญเชิงรุก เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของ MTC เป็นเกษตรกร จึงคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากนโยบายของรัฐบาลใหม่ ที่จะอนุญาตให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรพักชำระหนี้ (คาดว่าจะเริ่มใน 4Q66) รวมถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้กับคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป (คาดว่าจะเริ่มในเดือนเมษายน 2567) 

 

การเติบโตของสินเชื่อจะชะลอตัวลง MTC ยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อชะลอตัวลงสู่ 20% ในปี 2566 (เทียบกับ 22%YoY ใน 1H66) จาก 31% ในปี 2565 บริษัทวางแผนลดสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันลงในระยะ 4 ไตรมาสข้างหน้า InnovestX Research คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะชะลอตัวลงอีกในปี 2567 และปี 2568 โดยมีสาเหตุมาจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ตึงตัว (3.7 เท่า ณ 2Q66 เทียบกับ Covenant ที่ 4 เท่า) และมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของ ธปท. ซึ่งประกอบด้วยการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (มีผลใช้บังคับเดือนมกราคม 2567) การแก้หนี้เรื้อรัง (มีผลใช้บังคับเดือนเมษายน 2567) และการกำหนดภาระหนี้ต่อรายได้ (มีผลใช้บังคับปี 2568)

 

สำหรับต้นทุนทางการเงินจะสูงขึ้นและผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อมี Upside โดย MTC คาดว่าต้นทุนทางการเงินจะสูงขึ้นใน 2H66 โดยคาดการณ์ต้นทุนทางการเงินที่ 3.7-3.8% ในปี 2566 เทียบกับ 3.55% ใน 2Q66 InnovestX Research มองว่า ผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อของ MTC มี Upside โดยมีสาเหตุมาจากการที่ SAWAD ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์สู่ 18% จากประมาณ 15% (เทียบกับ 16% ของ MTC) ในเดือนกรกฎาคม หลังจากเข้าซื้อหุ้น 49% ในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด จากธนาคารออมสิน

 

ดังนั้นจึงคาดว่า NIM จะลดลง 48 bps สู่ 15.16% ในปี 2566 (เทียบกับ 15.03% ใน 1H66) โดย NIM จะเพิ่มขึ้น HoH ใน 2H66 (จากปัจจัยฤดูกาลตามจำนวนวันในการคำนวณ EIR)

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น MTC ปรับเพิ่มขึ้น 16.67%MoM สู่ระดับ 40.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 1.14%MoM สู่ระดับ 1,547.86 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

 

InnovestX Research ปรับประมาณการ Credit Cost ปี 2566 ลดลง 10 bps สู่ 3.8% (เทียบกับ 3.6% ใน 1H66, 2.7% ในปี 2565) และปี 2567 ลดลง 15 bps สู่ 3.65% เพื่อสะท้อนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากนโยบายของรัฐบาลใหม่ และคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อที่ 20% ในปี 2566 และ 18% ในปี 2567 ส่วนกำไรคาดว่าจะลดลง 6% ในปี 2566 (ECL ที่เพิ่มขึ้น) แต่จะเพิ่มขึ้น 17% ในปี 2567 (NII เพิ่มขึ้น และ Credit Cost ลดลง)

 

สำหรับ 2H66 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวเล็กน้อย QoQ และ YoY เนื่องจาก NII ที่ดีขึ้น (จากสินเชื่อที่เติบโตดีและ NIM ที่ดีขึ้น) คาดว่าจะถูกลดทอนโดย ECL ที่เพิ่มขึ้น

 

อย่างไรก็ดี ด้านกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research ยังคงเรตติ้ง NEUTRAL สำหรับ MTC ด้วยราคาเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 38 บาท สู่ 40 บาทต่อหุ้น (PBV 2.2 เท่า หรือ P/E 15 เท่าสำหรับปี 2567) เพื่อสะท้อนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลใหม่

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงและแนวโน้มที่จะเกิดเอลนีโญ, ความเสี่ยงด้าน NIM จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น, การแข่งขันที่สูงขึ้นจากธนาคาร, ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และความเสี่ยงที่จะเพิ่มทุน เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนตึงตัวเมื่อเทียบกับ Covenant

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising