วันนี้ (18 สิงหาคม) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วาระเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่มี ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ชวนได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จำนวน ส.ส. ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้มี 482 คน หลังจากที่ศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้อง คดีหมายเลขดำที่ คมจ. 2/2564 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง กับ ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ฐานะผู้คัดค้าน กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไว้พิจารณา เป็นผลให้ธณิกานต์ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว เกิดจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล 4 ราย คือ พรรคภูมิใจไทย 3 ราย ฉลอง เทอดวีระพงศ์, ภูมิศิษฏ์ คงมี, นาที รัชกิจประการ และพรรคพลังประชารัฐ 1 ราย ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ กรณีถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท
โดย ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลทั้ง 4 ราย ถูกชี้มูลในความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ที่ระบุว่า เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงชี้มูลผิดมาตรฐานจริยธรรมฯ อย่างร้ายแรง ซึ่งต้องส่งสำนวนให้ศาลฎีกาพิจารณาด้วย