หนึ่งในคดีที่รอการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นตัวบ่งชี้อนาคตของพรรคก้าวไกล และยังบ่งชี้ถึงอนาคตการเมืองไทยด้วย คือคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)
ขณะเดียวกัน กกต. ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่ง กก.บห. และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ ภายในกำหนด 10 ปี
ในวันนี้ (7 สิงหาคม) เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย ซึ่งเป็นการชี้ชะตาพรรคก้าวไกลว่าจะต้องปิดฉากลงเหมือนพรรคอนาคตใหม่ หรือจะรอดพ้นการยุบพรรคไปได้
ทีมข่าว THE STANDARD สรุปฉากทัศน์ผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่คาดว่าจะออกมา ดังนี้
แนวทางแรก: ยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี เนื่องจากปรากฏพยานหลักฐานบ่งชี้ หรือเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์ตามที่ถูกกล่าวหา
แนวทางที่สอง: ไม่ยุบพรรคก้าวไกล ไม่ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากหยุดการกระทำตามคำวินิจฉัยเดิมไปแล้ว
ภาพประกอบ: กันยกร กาญจนวิไล