ต้อนรับเช้าวันใหม่กับความเคลื่อนไหวสำคัญในโลกเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ประจำวันที่ 18 ธันวาคม ใน THE STANDARD WEALTH Morning Brief
ซีอีโอของ Goldman Sachs ห่วงราคาหุ้น IPO แพงเกินพื้นฐาน
เดวิด โซโลมอน ประธานและผู้บริหารสูงสุดของ Goldman Sachs วาณิชธนกิจชื่อดังระดับโลก ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ว่าตัวเขามีความกังวลต่อกระแสความต้องการของนักลงทุนรายย่อยในการเข้าไปซื้อหุ้น IPO กันอย่างตื่นตระหนก
โดยกล่าวว่า “ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความอิ่มอกอิ่มใจจากการลงทุนในหุ้นที่เพิ่งทำการ IPO แต่โดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างกังวลใจในเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันจะไม่สามารถเป็นแบบนี้ได้ในระยะยาว การปรับฐานแรงจะต้องเกิดขึ้นและมันเกิดขึ้นอยู่ตลอดในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าหุ้นที่เพิ่ง IPO หลายๆ หลักทรัพย์จะมีธุรกิจที่เยี่ยมยอด แต่ราคาที่ซื้อขายกันอยู่มันเป็นราคาที่มองโลกในแง่ดีมาก และได้ใส่อัตราการเติบโตในระดับสูงจากอนาคตข้างหน้าอันยาวไกลไว้แล้ว”
ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ แนะ ‘ไบเดน’ กดดัน ‘จีน’ ด้านการค้าต่อไป
โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ตัวแทนทางการค้าสหรัฐฯ ในคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อถูกถามว่า โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปควรทำอย่างไรต่อไปสำหรับข้อตกลงทางการค้าระยะที่ 1 “ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนถือว่าทำได้ดีตามข้อตกลงทางการค้าระยะที่ 1 ที่ได้ทำไว้ในช่วงต้นปี 2020 โดยเฉพาะบางประเด็น เช่น การสั่งซื้อสินค้าเกษตร แต่สหรัฐฯ ควรดำเนินนโยบายทางการค้ากับจีนตามข้อตกลงทางการค้าระยะที่ 1 ต่อไป”
จากข้อมูลล่าสุดในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม จีนดำเนินตามข้อตกลงไปได้เพียงครึ่งเดียวสำหรับตัวเลขการสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ ในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานติดขัดไปทั่วโลก ทางด้านไบเดนก็มีท่าทีที่จะดำเนินนโยบายตามข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 ต่อไป
‘3 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ’ กอดคอพุ่งทำ ‘นิวไฮ’
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ ดัชนีหลักทั้ง 3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ทั้งหมด และปิดที่ระดับสูงสุดใหม่กันได้ทั้ง 3 ดัชนี โดยเฉพาะดัชนี Nasdaq 100 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่นที่สุด เนื่องจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและเฮลท์แคร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ค่อนข้างดีทั้งคู่
โดยปัจจัยหลักที่เข้ามาสนับสนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ มาจากการที่นักลงทุนเชื่อว่าสภาคองเกรสจะผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการคลังรอบใหม่ได้ภายในปี 2020 นี้ หลังถูกกดดันจากหลายฝ่าย และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญส่งสัญญาณการชะลอตัว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตลาดแรงงาน เป็นอีกปัจจัยที่เข้ามากดดันให้ต้องผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
1. กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เผยว่าได้ขึ้นบัญชีดำบริษัท 4 แห่งที่อยู่ในประเทศจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ได้ช่วยเหลือด้านการส่งออกต่อบริษัทปิโตรเคมีสัญชาติอิหร่าน
2. ประกาศตัวเลขผู้มาลงทะเบียนว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่ 8.85 แสนราย มากกว่าที่คาดไว้ที่ 8 แสนราย
3. ประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia Fed Manufacturing Index) ประจำเดือนธันวาคมที่ 11.1 จุด น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้มากที่ 20.0 จุด และลดลงมากจากเดือนก่อนที่ 26.3 จุด
หุ้นกลุ่มเทคฮ่องกงพุ่งแพง หลังหลายพื้นที่ล็อกดาวน์เข้มข้น
ตลาดหุ้นฮ่องกง Hang Seng เพิ่มขึ้น 218.09 จุด หรือ 0.82% ดัชนีของตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นจีน A-Share ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากหุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีตามตลาดหุ้นจีน A-Share และหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีเช่นกัน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นชั้นนำอื่นๆ เนื่องจากความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาด รวมถึงการดำเนินนโยบายล็อกดาวน์ที่เข้มข้นขึ้นในหลายประเทศ อีกทั้งหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินปรับตัวผสมผสาน ไม่ได้ปรับตัวลดลงทั้งหมด ถึงแม้ว่าความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดจะมากขึ้น ส่วนหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่
โดยดัชนี Hang Seng TECH Index เพิ่มขึ้น 186.26 จุด หรือ 2.29% ดัชนีกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างโดดเด่นตามกระแสหุ้นทั่วโลกจากความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดและนโยบายล็อกดาวน์ที่เข้มข้นขึ้น รวมถึงนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ
ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ หุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีในตลาดฮ่องกง หลังจากกระทรวงการคลังของจีนเผยว่าจะออกนโยบายภาษีพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์
ราคาทองคำพุ่งต่อเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีมาปิดที่ 1,885 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.02% จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง หลัง Fed มีจุดยืนที่จะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอีกนาน ดัชนี US Dollar Index ปิดที่ 89.78 จุด ลดลง 0.74%