หลังจากที่ราคาหุ้น บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ทรงตัวในระดับ 29-30 บาทมาระยะหนึ่ง แต่ล่าสุดเริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นตัวนี้อีกครั้ง ส่งผลให้ราคาหุ้น OR พุ่งขึ้นมาปิดการซื้อขายในภาคเช้าของวันนี้ (17 มีนาคม) ที่ระดับ 32 บาท เพิ่มขึ้น 7.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งราว 6.6 พันล้านบาท ซึ่งราคาหุ้นดังกล่าวถือเป็นราคาสูงสุดในรอบ 1 เดือน
สาเหตุที่ทำให้เริ่มมีแรงเก็งกำไรหุ้น OR กลับเข้ามาอีกครั้ง ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากหุ้น OR เริ่มหมดช่วงไซเรนต์พีเรียดที่ห้ามโบรกเกอร์ที่ช่วยจัดจำหน่ายหุ้น (อันเดอร์ไรเตอร์) ห้ามจัดทำบทวิเคราะห์เกี่ยวกับตัวหุ้น แต่เมื่อพ้นช่วงไซเรนต์พีเรียดก็ทำให้โบรกเกอร์เหล่านี้เริ่มกลับมาทำบทวิเคราะห์ได้แล้ว
โดยล่าสุด มอร์แกน สแตนเลย์ ได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น OR ออกมา โดยประเมินว่าในปีนี้ OR น่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 25% แต่ด้วยราคาหุ้น ณ ปัจจุบันที่ค่อนข้างแพง จึงให้น้ำหนักเป็นกลางในการเข้าลงทุน
มอร์แกน สแตนเลย์ ผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลก ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) โดยระบุว่า OR ถือเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจสถานีบริการน้ำมันของไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 40% มากกว่าผู้เล่นอันดับ 2 ราว 2.5 เท่า และยังมีการขยายธุรกิจอื่นๆ ในส่วนของ Non-oil เพิ่มเติม
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันและอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มเติมของธุรกิจ Non-oil และการขยายธุรกิจในต่างประเทศ
นอกจากนี้ OR ยังได้ลงทุนในส่วนของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นโอกาสของการเติบโตไปยังอนาคต และช่วยลดความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจน้ำมันในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาหุ้นที่ซื้อขายแพงกว่าธุรกิจเดียวกันในภูมิภาคราว 25% ทำให้เรามีมุมมองเป็นกลางต่อระดับราคาของ OR ในปัจจุบัน โดย มอร์แกน สแตนเลย์ ได้ให้ราคาเหมาะสมของหุ้น OR อยู่ที่ 26.8 บาท
สำหรับผลประกอบการของ OR คาดว่ากำไรสุทธิปี 2564 จะทำได้ 11,379 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนที่ 9,104 ล้านบาท ส่วนปี 2565-2566 คาดทำได้ 16,061 ล้านบาท และ 18,012 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์