เหตุการณ์เขย่าขวัญในตลาดคริปโตอย่างการล่มสลายของเหรียญ LUNA-UST เมื่อปีที่แล้ว และการล้มละลายของเว็บเทรดชั้นนำ FTX ทำให้การถือครองบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้นทะลุ 1 ล้านที่อยู่ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาล (ATH) ตามข้อมูลจาก Glassnode
ที่อยู่กระเป๋าเงินบิทคอยน์ทะลุ 1 ล้านใบแล้ว
เครื่องมือวิเคราะห์ของ Glassnode แสดงให้เห็นว่ากระเป๋าเงินที่ถือครองบิทคอยน์มากกว่า 1 BTC ทะลุ 1 ล้านใบแล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากถึง 20% นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และเป็นสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาล (ATH) สิ่งนี้บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นระยะยาวที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าราคาบิทคอยน์จะปรับตัวลงก็ตาม
การถือครอง BTC พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อปี 2022 เมื่อราคาสกุลเงินดิจิทัลร่วงลงอย่างรุนแรงในสภาวะตลาดหมี ซึ่งถูกซ้ำเติมด้วยการล่มสลายของเครือข่าย Terra และการล้มละลายของเว็บเทรดคริปโต FTX
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก CoinGlass แสดงให้เห็นว่า บิทคอยน์ที่ถูกขุดมาแล้วทั้งหมดบนโลกนี้ประมาณ 19 ล้าน BTC ในปัจจุบันมีจำนวน 1.89 ล้าน BTC ที่ถูกเก็บไว้ในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตแบบรวมศูนย์ เช่น Binance และ Coinbase คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5.07 หมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
Negentropic ผู้ร่วมก่อตั้ง Glassnode ทวีตบน Twitter ว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อบิทคอยน์ คือตอนที่ ‘เลือดนองเต็มตลาด’ นั่นเอง นอกจากนี้เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า วิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) หยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคา BTC มีโอกาสแตะ 35,000 ดอลลาร์ได้
จำนวนที่อยู่เหล่านี้บ่งบอกถึงอะไรกันแน่?
แม้ว่าการถือครองบิทคอยน์มากกว่า 1 ล้านที่อยู่ จะเป็นสถิติใหม่ที่น่าประทับใจ แต่ไม่ได้หมายความว่ากระเป๋าเงินหนึ่งใบจะเป็นของบุคคลหนึ่งคนเสมอไป เพราะคนหนึ่งอาจสร้างกระเป๋าเงินหลายใบก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม การถือครอง BTC ที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่เกิดวิกฤตในตลาดคริปโตอย่างเหตุการณ์ Terra และ FTX รวมถึงวิกฤตธนาคารสหรัฐฯ จากการล่มสลายของธนาคารหลายแห่ง กำลังสะท้อนว่าผู้คนมองบิทคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ที่หลบภัยทางเลือกแห่งใหม่ แต่การที่ตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน บิทคอยน์อาจต้องมีการกำกับดูแลและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง (Mass Adoption) จากนักลงทุนรายใหญ่ หรือสถาบันการเงินมากกว่านี้ ไม่ใช่เพียงแค่การถือครองจากนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากเท่านั้น
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง:
