วันนี้ (21 สิงหาคม) นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังพบว่ามีประชาชนหลายพื้นที่ที่ยังมีการจัดปาร์ตี้ ตั้งวงดื่มแอลกอฮอล์ หรือเล่นการพนัน ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนกระแสกับมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด เพิ่มความเสี่ยงทำให้เชื้อแพร่กระจายพร้อมๆ กันแบบกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ เนื่องจากระหว่างที่ร่วมกิจกรรม หากมีผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่แสดงอาการป่วยอยู่ร่วมวงด้วย เชื้อจะสามารถแพร่ได้ทั้ง 3 ทาง คือ
- ทางปาก ขณะที่มีการอ้าปากพูดคุย หัวเราะเฮฮา เชื้อจะออกมากับละอองน้ำลาย โดยจะมากที่สุดเมื่อมีการร้องเพลงหรือพูดเสียงดัง
- การสูดละอองน้ำลายเข้าทางจมูก เนื่องจากไม่มีการเว้นระยะห่าง ไม่ได้คาดหน้ากากอนามัย แต่หันหน้าเข้าหากัน โอกาสแพร่เชื้อจึงมีสูง
- ทางการสัมผัสภาชนะต่างๆ ทั้งแก้วน้ำ ขวดน้ำ ภาชนะใส่อาหาร กรณีเป็นวงพนัน เช่น วงไพ่ เชื้อโควิดจะติดไปกับไพ่ ได้สัมผัสกันรอบวง โดยหากจัดงานอยู่ในภายในห้องซึ่งเป็นพื้นที่ปิด โอกาสติดเชื้อจะสูงกว่าที่โล่งหลายเท่าตัว เชื้อไวรัสโควิดจะมีชีวิตอยู่ในละอองน้ำมูกหรือน้ำลายประมาณ 5 นาที อยู่บนวัสดุ เช่น พื้น โต๊ะ ลูกบิดประตู ได้นาน 7-8 ชั่วโมง ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกพื้นที่งดการจัดกิจกรรมที่กล่าวมา และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่กระจาย ของเชื้อและลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันให้ได้มากที่สุด
ด้าน นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ประชาชนควรรักษาสุขภาพ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคต่างๆ อ่อนกำลังลง ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากได้รับเชื้อไวรัสโควิดเข้าสู่ร่างกาย จึงทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้น เพิ่มความเสี่ยงให้เชื้อโควิดลงปอดเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการแยกกักตัวเองที่บ้านจึงไม่ควรดื่มเป็นอย่างยิ่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422