วันนี้ (20 เมษายน) ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกับบริษัท Pfizer แล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องการจัดส่งที่ยังไม่ทันกับความต้องการของไทย ซึ่งต้องการให้มีการนำเข้าภายในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คุยไว้หลายบริษัท และติดปัญหาเดียวกันหมด จะมีแต่ของ Sinovac ที่สามารถจัดหามาได้
อนุทินกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของไทยคือการให้บริการประชาชนในวงกว้างภายในเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยวัคซีนของ AstraZeneca ภายในอาทิตย์นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะขึ้นทะเบียนอนุมัติไซต์การผลิต ซึ่งเป็นขั้นตอนทางเอกสารที่ผ่านมา การผลิตวัคซีนของไทยได้มาตรฐานดีมาก คิดว่าทุกอย่างสามารถดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนแผนปัจจุบันภายในสัปดาห์นี้จะฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ครบ 100%
เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องจำนวนยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกัน อนุทินกล่าวว่า ที่ได้รับรายงานมายังมีจำนวนเพียงพอ และตนได้สั่งการให้จัดหาเข้ามาเรื่อยๆ ยาฟาวิพิราเวียร์ต้องมีสต๊อกอย่างน้อย 5 แสนเม็ด ถึง 1 ล้านเม็ด ส่วนสถานที่รองรับผู้ป่วย มีนโยบายว่าผู้ติดเชื้อต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ เราต้องทำทุกทาง เพื่อรักษาชีวิตประชาชน มีความเป็นห่วงเรื่องข่าวสารที่เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นประเด็นที่สังคมสนใจ ขอให้ประชาชนรับข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุขควบคู่กัน เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งอื่น เพราะทางกระทรวงอธิบายตามข้อเท็จจริง โดยผู้ที่ทำงานจริง เข้าใจสถานการณ์จริง ก่อนหน้านี้มีหมอจากจังหวัดภาคเหนือออกมากล่าวว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่พอ ก็ต้องให้ส่วนกลางชี้แจงว่ามีเพียงพอ จนเข้าใจ ซึ่งคุณหมอได้ออกมาทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว
ส่วนสถานการณ์การระบาด และมีความกังวลว่าจะมีผู้ป่วยอาการรุนแรงมากขึ้น แล้วเตียงจะพอหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ตอนนี้ได้เตรียมเตียง ICU ไว้รองรับแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาจะเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนในต่างจังหวัดมีผู้ป่วยไม่มากก็จะไม่เป็นปัญหา เพราะมีการบริหารจัดการที่กระจายอำนาจไป ซึ่งมีทั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาล มีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บูรณาการกันทำงาน