วันนี้ (18 สิงหาคม) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดว่า วันนี้ประเทศไทยพบการติดเชื้อใหม่ 20,515 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2564 สะสม 940,094 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 312 ราย จำนวนผู้รักษาหายเพิ่ม 22,682 ราย ซึ่งสูงกว่าการติดเชื้อใหม่ จึงเป็นสัญญาณที่ดีของระบบรองรับผู้ป่วยตามที่มีการใช้มาตรการแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) เมื่อรักษาครบ 14 วันก็ถือว่าหายป่วย ทั้งนี้ นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงสถิติการเสียชีวิตว่า หลายประเทศจะดูการเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วัน เพราะระบบจะมีการตรวจสอบข้อมูลตกหล่นเป็นระยะ
“ดังนั้นต้องเรียนว่าสำหรับผู้เสียชีวิต 312 รายของประเทศไทยวันนี้ จึงไม่ใช่เพิ่งเสียชีวิต แต่มีประมาณ 100 ราย ในเกือบ 20 จังหวัดที่รายงานช้า โดยมี 50 ราย พบข้อมูลวันที่เสียชีวิตก่อนเดือนสิงหาคม บางรายย้อนหลังไปจนถึงเดือนเมษายน และอีก 50 รายเสียชีวิตช่วงต้นเดือนสิงหาคม เนื่องจากบางรายไม่ได้เข้าโรงพยาบาล แต่มีการเสียชีวิต จึงต้องชันสูตรหาสาเหตุ ซึ่งก็เจอว่าติดเชื้อโควิด ซึ่งแปลว่าหากไม่รวมจำนวนตกหล่น ยอดการเสียชีวิตจะอยู่ที่ 200 กว่าราย” นพ.เฉวตสรร กล่าว
นพ.เฉวตสรร กล่าวด้วยว่า จำนวนผู้เสียชีวิต 312 ราย พบว่าเป็นผู้ไม่เคยรับวัคซีนโควิดรวม 147 ราย คิดเป็นร้อยละ 47 ซึ่งมี 1 รายเป็นบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า เวรเปล โรงพยาบาลแม่สอด โดยมีโรคประจำตัวที่เป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ได้รับวัคซีนแล้วเพียงเข็มที่ 1 มี 33 ราย ซึ่งปกติการหวังประสิทธิภาพ ประสิทธิผลจากการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต ต้องฉีดครบสูตรตามกำหนด และนับหลังจากเข็มที่ 2 ครบแล้วไปอีก 14 วัน จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ และอีก 132 ราย คิดเป็นร้อยละ 42 ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล
“หากตัดส่วนที่รอตรวจสอบข้อมูล จะเห็นว่าทั้งหมดที่เสียชีวิตคือผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยหรือฉีดยังไม่ครบ ดังนั้นเราจึงย้ำความสำคัญในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ต้องติดตามข่าว ลงทะเบียนฉีดตามสิทธิ์ และอย่าลังเล การฉีดวัคซีนเป็นสิทธิ์การตัดสินใจของเจ้าตัว ควรศึกษาข้อมูลให้มั่นใจ แต่ทางวิชาการยืนยันว่าวัคซีนปลอดภัย มีประสิทธิผลสูง ก็จะทำให้เราปลอดภัยจากโควิดไปด้วยกัน” นพ.เฉวตสรร กล่าว
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อไปว่า การป้องกันการติดเชื้อโควิดตลอดเวลา หรือเรียกว่า การป้องกันการติดเชื้อครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19) ต้องตื่นรู้ตลอดเวลาในการระวังตัวเอง ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นผู้ทำงานในโรงพยาบาลที่จะถูกสอนให้ป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่เราจะขยายไปถึงประชาชนที่ใช้ชีวิตปกติ ก็ต้องป้องกันตลอดเวลาแม้ไม่มีความเสี่ยง คิดเสมอว่าคนรอบตัวที่จะสนิทหรือไม่ก็อาจมีเชื้อแฝงอยู่ การป้องกันเต็มที่ของเราจะทำให้ปลอดภัยไม่ติดเชื้อ และต้องคิดเสมอว่าตัวเราเองอาจติดเชื้อแฝงอยู่ การป้องกันเต็มที่ก็จะช่วยให้คนใกล้ตัวเราปลอดภัย