วันนี้ (27 ธันวาคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด ฉากทัศน์การแพร่ระบาด และการปฏิบัติตัวของประชาชน ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ว่าตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมเป็นต้นมา ประเทศไทยสามารถคัดกรองผู้เข้าประเทศ โดยคิดเป็นโอไมครอนสะสม 514 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในการควบคุม มีบางส่วนที่เล็ดลอดและไปเยี่ยมญาติ อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อก่อนหน้านี้ แต่ต้นเชื้อมีประมาณ 500 กว่าราย ส่วนอาการของผู้ป่วยประมาณ 90% เป็นอาการน้อยหรือไม่มีอาการ อาการเล็กน้อยอยู่ประมาณ 10% และอาการมาก 3-4% อย่างไรก็ตาม ที่ประเทศอังกฤษมีการศึกษาและรายงานว่า ความรุนแรงของโอไมครอนเมื่อเทียบกับเดลตาจะน้อยกว่า และมักพบว่าเชื้อส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณหลอดลม ไม่ค่อยลงปอด แต่หากลงปอดก็มีอาการรุนแรงเหมือนสายพันธุ์เดลตา
นพ.เกียรติภูมิยังนำเสนอฉากทัศน์ของการแพร่ระบาดโอไมครอน 3 ฉากทัศน์ ได้แก่
- ฉากทัศน์แรก (Least Favourable) พบการระบาดของเชื้อโควิด และฉีดวัคซีนใกล้เคียงในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ประชาชนส่วนใหญ่ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติตาม UP (Universal Prevention) คาดการณ์ Worst Case Scenario มีผู้ติดเชื้อตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2565 จำนวน 30,000 คนต่อวัน เสียชีวิต 170-180 คนต่อวัน
- ฉากทัศน์ที่ 2 (Possible) โอกาสติดเชื้อเพิ่มสูงช่วงปีใหม่ ฉีดวัคซีนใกล้เคียงช่วงเดือนธันวาคม 2564 ขณะที่ทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติตามมาตรการ VUCA (Vaccine Universal Prevention Covid Free Setting ATK) อย่างเคร่งครัด คาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2565 มากกว่า 15,000 คนต่อวัน ผู้เสียชีวิต 60-70 คนต่อวัน
- ฉากทัศน์ที่ 3 (Most Favourable) คือแบบดีที่สุด ผลจากโอกาสติดเชื้อเพิ่มปานกลาง เร่งฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้นในทุกกลุ่ม และทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการ