วันนี้ (19 กันยายน) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลังมีรายงานการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) กรมควบคุมโรคได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคฝีดาษลิง เพื่อเฝ้าระวังในระดับกรม ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2565 ต่อมาเมื่อองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern: PHEIC) กระทรวงสาธารณสุขมีการประชุมเพื่อเตรียมแนวทางตอบโต้ต่อสถานการณ์ และยกระดับศูนย์ EOC เป็นระดับกระทรวง ทำให้การสั่งการเฝ้าระวังมีความครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจากการติดตามเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิงพบว่า สถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน จากที่เคยสูงสุดช่วงเดือนสิงหาคมประมาณ 1,000 รายต่อวัน ขณะนี้เหลือเฉลี่ย 580 รายต่อวัน
นพ.โอภาสกล่าวต่อไปว่า สำหรับประเทศไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรวม 8 ราย ในระยะเวลา 4 เดือน เฉลี่ยเดือนละ 2 ราย ส่วนใหญ่มีประวัติเปลี่ยนคู่นอนหลายคน โดย 3 ใน 7 ราย มีประวัติแสดงอาการก่อนเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย ปัจจัยการติดต่อหลักคือ การสัมผัสใกล้ชิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ WHO และจากการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงยังไม่พบการแพร่เชื้อต่อแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่าโรคนี้ไม่ได้ติดต่อกันได้ง่าย ดังนั้น ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขวันนี้จึงเสนอปรับลดระดับศูนย์ EOC โรคฝีดาษลิง จากระดับกระทรวงกลับมาเป็นระดับกรมตามเดิม
“แม้จะลดระดับศูนย์ EOC มาเป็นระดับกรม แต่โรคฝีดาษลิงยังเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนั้น เมื่อพบผู้ป่วยต้องสงสัยยังต้องรายงานและสอบสวนโรค ซึ่งจากการวิเคราะห์จำนวนการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่า มีผู้ป่วยที่ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการแต่ไม่ได้รายงานการสอบสวนโรคมาที่กรมควบคุมโรค จึงขอให้โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศรายงานกรณีพบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษลิง เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของการติดตามสถานการณ์โรคต่อไป” นพ.โอภาสกล่าว
ทั้งนี้ การป้องกันโรคฝีดาษลิง ให้เลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกาย ให้สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคนหรือคนแปลกหน้า หากมีอาการสงสัย เช่น มีผื่นตามลำตัว เป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ด หลังจากมีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้านท่านได้ทันที