หุ้นของ Moore Threads ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) สัญชาติจีน ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็น “Nvidia แห่งจีน” สร้างปรากฏการณ์ในการเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Exchange) ด้วยการพุ่งทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 400%
ราคาหุ้นล่าสุดพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 584.98 หยวน ซึ่งสูงกว่าราคาจองซื้อ (IPO) ที่ 114.28 หยวน ถึงกว่า 5 เท่า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่ออุตสาหกรรมชิป AI ในประเทศ ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีที่ดุเดือดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
Moore Threads ประสบความสำเร็จในการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท โดยมี CITIC Securities เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ร่วมกับ BOC International Securities, China Merchants Securities และ GF Securities
แม้บริษัทยังไม่มีกำไร แต่ได้ระบุในหนังสือชี้ชวนว่าจะนำเงินที่ได้ไปเร่งเครื่องการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในโครงการหลักๆ โดยเฉพาะการพัฒนาชิป GPU สำหรับการฝึกฝน (Training) และการอนุมาน (Inference) AI รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเอง รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
🇨🇳 ความหวังของจีนในการพึ่งพาตนเองท่ามกลางสงครามชิป
ความสำเร็จในการเข้าตลาดครั้งนี้มีความหมายอย่างยิ่ง เนื่องจาก Moore Threads เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำและคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งจำกัดการเข้าถึงกระบวนการผลิตชิปขั้นสูง
อย่างไรก็ตาม บริษัทถือเป็นตัวแทนสำคัญของกลุ่มบริษัทจีนที่กำลังเร่งพัฒนาโปรเซสเซอร์ AI เพื่อลดการพึ่งพา Nvidia ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ตามนโยบายของรัฐบาลปักกิ่ง ที่พยายามผลักดันให้เกิดทางเลือกภายในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า โดยเฉพาะจากฝั่งของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม Moore Threads ไม่ใช่ผู้เล่นรายเดียวในสนามนี้ แต่ยังมีคู่แข่งสำคัญอย่าง Huawei ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี รวมถึงผู้เล่นเฉพาะทางอย่าง Cambricon (ซึ่งราคาหุ้นในตลาดเซี่ยงไฮ้พุ่งขึ้นกว่า 100% ในปีนี้) นอกจากนี้ยังมีสตาร์ทอัพหน้าใหม่อย่าง Enflame Technology และ Biren Technology ที่กำลังกระโดดเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด GPU มูลค่ามหาศาลที่ Nvidia ไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป
สถานการณ์นี้สอดคล้องกับท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลของจีน ที่กำลังเร่งอนุมัติ IPO ของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์จำนวนมาก เพื่อสนับสนุนเป้าหมายความเป็นอิสระด้าน AI ของประเทศ ท่ามกลางมาตรการกีดกันทางการค้าจากทั้งสองฝั่ง โดยล่าสุดจีนก็ได้เริ่มระงับการนำเข้าชิปบางรุ่นของ Nvidia เพื่อเปิดทางให้ผู้ผลิตในประเทศได้เติบโต
อ้างอิง:


