THE STANDARD POP สรุปข่าวจาก D23 Expo งานโชว์เคสอัปเดตความเคลื่อนไหวจากค่ายดิสนีย์ ที่ในวันแรกเน้นไปที่ออริจินัลซีรีส์จะเป็นกำลังสำคัญในแพลตฟอร์มสตรีมมิง Disney+ ที่เห็นรายชื่อแต่ละโปรเจกต์แล้วบอกได้คำเดียวว่าหนักใจแทนคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Netflix จริงๆ
- เริ่มตั้งแต่การประกาศเสริมทัพ 3 ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Moon Knight, She-Hulk และ Ms. Marvel ที่จะออกมาในรูปแบบซีรีส์ เข้าสู่ Phase 4 ของจักรวาลมาร์เวล ต่อจาก The Falcon and the Winter Soldier, Loki และ WandaVision เพื่อสร้างเส้นเรื่องที่แข็งแรงของตัวเอง ก่อนที่จะนำมาแจมบทบาทกันในภาพยนตร์ต่อไป
- ตำแหน่งที่แฟนคลับตื่นเต้นมากที่สุดในงานนี้ต้องยกให้ Moon Knight ทหารรับจ้างมาร์ก สเปกเตอร์ ที่ได้พลังพิเศษจากเทพแห่งดวงจันทร์ของชาวอียิปต์ จนกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังมากขึ้นเมื่อต่อสู้ใต้แสงจันทร์
ส่วนมากจะออกปฏิบัติภารกิจตอนกลางคืน รวมทั้งความเชี่ยวชาญด้านการแกะรอย สืบค้นข้อมูล ทักษะและอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ใกล้เคียงกับอัศวินรัตติกาลของฝั่ง DC จนหลายคนเรียก Moon Knight ว่าเป็น ‘แบทแมนแห่งมาร์เวล’
ความน่าสนใจอีกอย่างของ Moon Knight คือเป็นแอนตี้ฮีโร่ที่มีหลายบุคลิก ตั้งแต่ทหารรับจ้าง ผู้ได้รับพลังแห่งเทพ คนขับแท็กซี่ นักธุรกิจ และสามารถเลียนแบบบุคลิกและความสามารถของกัปตันอเมริกา สไปเดอร์แมน และสมาชิก Avengers คนอื่นๆ ได้ด้วย
- เพิ่มฮีโร่พลังหญิง She-Hulk หรือ เจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ ทนายความและญาติที่ บรูซ แบนเนอร์ เคยช่วยถ่ายเลือดเพื่อช่วยชีวิต และแน่นอนว่าพลังของรังสีแกมมาที่ทำให้กลายร่างเป็นเดอะ ฮัลค์ ก็ถูกส่งผ่านมาให้เธอด้วย จนกลายเป็น She-Hulk ซูเปอร์ฮีโร่สายจอมพลังที่ด้านกำลังอาจด้อยกว่าเดอะ ฮัลค์ แต่ก็ชดเชยด้วยการที่เธอสามารถควบคุมสติสัมปัชชัญญะระหว่างแปลงร่างมาแทน
- ยืนยันเรื่องความหลากหลายและเท่าเทียมของมาร์เวลผ่าน Ms. Marvel ซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นมุสลิมคนแรกในจักรวาลมาร์เวล ความน่าสนใจของ Ms. Marvel คือเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการต่อสู้ปราบเหล่าร้าย แต่เป็นการนำเสนอภาพสังคมอเมริกันในแบบที่ไม่ใช่แนวชาตินิยมที่คุ้นเคย
เพราะเรื่องราวของ กมลา ข่าน สาวน้อยชาวปากีสถานวัย 16 ปี จะช่วยเผยให้เห็นอีกด้านของความแปลกแยก เมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ที่ว่ากันว่าเป็นดินแดนแห่งเสรี แต่กลับมี ‘กรอบ’ ทางวัฒนธรรมและสังคมหลายอย่างที่ ‘บีบ’ ไม่ให้เธอสามารถเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้
- ประกาศเสริมทัพ Wyatt Russell (Overlord, Black Mirror, Ingrid Goes West) จะมารับบทเป็น จอห์น วอล์กเกอร์ ที่ตามคอมิกเป็นหนึ่งในศัตรูของ สตีฟ โรเจอร์ (แต่ก็เคยเป็นกัปตันอเมริกาอยู่ช่วงหนึ่งด้วย) และน่าจะมาสมทบกับ Daniel Brühl หรือบารอน ซีโม ที่ยืนยันว่าจะกลับมารับบทไปแล้วก่อนหน้านี้
- ปล่อยตัวอย่างของ The Mandalorian ซีรีส์เดี่ยวครั้งแรกของจักรวาล Star Wars ที่เริ่มออกอากาศในวันที่ 12 พฤศจิกายนเป็นครั้งแรก เปิดตัวภาพ เปโดร ปาสคาล ในชุดเกราะนักล่าค่าหัว และฉากแอ็กชันที่เท่มากๆ จนแฟนๆ หลายคนคาดหวังว่าเปโดร ปาสคาลจะมีอนาคตที่สดใสกับซีรีส์เรื่องนี้ หลังจากเคยเปิดตัวอย่างสวยงาม แต่ลงท้ายอย่างน่าเศร้ามาแล้วในบทเจ้าชายโอเบรินในซีรีส์ Game of Thrones
- คอนเฟิร์มแล้วว่าเรื่องจะให้ อีวาน แม็กเกรเกอร์ กลับมารับบทเป็นเจไดในตำนานโอบี-วัน เคโนบี ที่เคยเป็นข่าวลือหนาหูก่อนหน้านี้ว่าเป็นเรื่องจริง! แต่แฟนๆ อาจจะต้องรออีกสักพักใหญ่ๆ เพราะกว่าจะเริ่มถ่ายทำได้ก็ต้องรอไปถึงปี 2020
- นอกจากนี้ยังมีประกาศสร้างซีรีส์ Monsters at Work แอนิเมชันจาก Pixar ที่จะเป็นเรื่องราวต่อจาก Monster University และ Forky Asks A Question ซีรีส์ภาคแยกของ Forky หนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นมากๆ ใน Toy Story 4
- Disney+ จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันแรกในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2019 นอกจาก The Mandalorian แล้ว ยังมีซีรีส์ไลฟ์แอ็กชัน Lady and the Tramp แอนิเมชันคู่รักหมาน้อยที่มีฉาก ‘กินสปาเกตตี’ ในตำนาน, High School Musical มิวสิคัล-ซีรีส์เรื่องแรก ว่าด้วยความรักและดนตรีในโรงเรียนไฮสคูล, The World According To Jeff Goldblum สารคดีของ เจฟฟ์ โกลด์บลัม สร้างโดยทีมงาน National Geographic ที่จะเริ่มออกอากาศในวันเดียวกัน
Disney+ คิดค่าบริการเดือนละ 6.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 210 บาท) จะเริ่มให้บริการที่สหรัฐอเมริกาเพียงที่เดียวก่อนในช่วงแรก และค่อยขยายไปยังประเทศโซนใกล้เคียง ซึ่งแฟนๆ ประเทศไทยน่าจะต้องอดใจรอกันถึงช่วงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า