ประธานาธิบดีมุนแจอินของเกาหลีใต้ เสนอแนวคิดให้สหประชาชาติ (UN) จัดตั้งเขตสันติภาพนานาชาติ เพื่อแทนที่เขตปลอดทหารบริเวณพรมแดนคาบสมุทรเกาหลีระยะทาง 250 กิโลเมตร ซึ่งแบ่งประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มานานกว่า 60 ปี ตั้งแต่สมัยสงครามเย็น
ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาติ มุนแจอินกล่าวว่า การจัดตั้งเขตสันติภาพจะช่วยรับประกันความมั่นคงให้กับเกาหลีเหนืออย่างเป็นระบบและปฏิบัติได้จริง ซึ่งส่งผลดีต่อการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของระบอบคิมจองอึน ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ก็จะได้รับสันติภาพอย่างถาวร และเป็นโมเดลให้ทั่วโลกได้ยึดเป็นแนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศที่มีพรมแดนติดกันด้วย
ผู้นำเกาหลีใต้แสดงวิสัยทัศน์ว่า เขตสันติภาพดังกล่าวซึ่งมีความกว้าง 4 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของหน่วยงาน UN ที่ช่วยหาทางคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างสองเกาหลีและปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งท้ายที่สุดจะประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)
มุนแจอินกล่าวว่า “เมื่อเขตปลอดทหาร (DMZ) ซึ่งกั้นกลางคาบสมุทรเกาหลี กลายเป็นเขตสันติภาพแล้ว คาบสมุทรแห่งนี้ก็จะกลายเป็นสะพานเชื่อมทวีปและมหาสมุทร ตลอดจนเชื่อมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง”
อย่างไรก็ตาม มุนแจอินยอมรับว่า การสร้างเขตสันติภาพเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะรวมถึงการกำจัดทุ่นระเบิดประมาณ 380,000 ลูกในเขตปลอดทหาร แต่กระนั้นเขามองในแง่บวกว่า แนวคิดดังกล่าวจะช่วยให้เกิดความพยายามอย่างแน่วแน่มากขึ้น
ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีใต้พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือให้เป็นปกติ โดยเริ่มจากการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างมุนแจอินและคิมจองอึนในเขตปลอดทหาร และล่าสุด มุนแจอินเผยว่า ได้พูดคุยกับผู้นำเกาหลีเหนือในการบูรณะฟื้นฟูทางรถไฟที่ถูกตัดขาดนับตั้งแต่สงครามเกาหลีระหว่างปี 1950-1953 ด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: