สถาบันจัดอันดับเครดิตระดับโลก Moody’s ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกา ที่อาจกำลังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการคลังของประเทศยืนอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงจากหลายปัจจัยที่ไม่เพียงแค่เรื่องของงบประมาณแผ่นดิน แต่หมายรวมไปถึงภาวะความขัดแย้งระหว่างสองขั้วการเมืองที่มีอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า Moody’s ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกาจากมีเสถียรภาพเป็นติดลบ ขณะเดียวกันหน่วยงานจัดอันดับยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ระยะยาว รวมถึงตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ์และไม่มีประกันของรัฐบาลสหรัฐฯ ไว้ที่ระดับ AAA
“จากปัจจัยของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และมาตรการจากนโยบายทางการคลังที่ไม่มีประสิทธิภาพในการลดการใช้จ่ายภาครัฐหรือเพิ่มรายได้ รวมไปถึงคาดการณ์ว่าการขาดดุลทางการคลังของสหรัฐฯ ที่สูงมากจะมีผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ต่ำลงอย่างมาก”
Brinkmanship ในวอชิงตันก็มีผล
Moody’s ยังระบุอีกว่า การใช้กลยุทธ์ทางการเมืองแบบ ‘Brinkmanship’ หรือการผลักสถานการณ์ให้เข้าสู่ขั้นอันตราย รวมไปถึงการแบ่งขั้วทางการเมืองที่มีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในคองเกรส ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของรัฐบาลชุดต่อไป เพราะไม่สามารถบรรลุฉันทมติเกี่ยวกับแผนทางการเงิน เพื่อชะลอการจ่ายหนี้ได้ในทันที
ดังนั้นการรักษาอันดับเครดิตของประเทศไว้ที่ AAA เชื่อว่าสหรัฐฯ จะรักษาความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจได้
“การเติบโตเชิงบวกที่น่าเซอร์ไพรส์ในช่วงระยะกลาง อย่างน้อยก็อาจชะลอความสามารถในการชำระหนี้ได้”
คลังโต้ เศรษฐกิจของอเมริกายังคงแข็งแกร่ง
วอลลี อเดเยโม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ว่า แม้ว่าคำแถลงของ Moody’s จะคงอันดับเครดิต AAA ของสหรัฐฯ ไว้ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการปรับไปสู่แนวโน้มในเชิงลบ
“เศรษฐกิจของอเมริกายังคงแข็งแกร่ง และพันธบัตรของการคลังสหรัฐฯ ก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง (Liquid Assets) ปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก”
โดย ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งใหม่ ระบุว่า เขาจะเปิดเผยแผนการระดมทุนของรัฐบาลพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่จะให้สมาชิกพิจารณาก่อนการโหวตในวันอังคารที่จะถึงนี้
ขณะที่ ฌอน ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว ออกมาแถลงโต้ว่า ทัศนคติการปรับลดอันดับของ Moody’s ที่มีต่อสหรัฐฯ นั้นมาจากกลุ่มที่มีความสุดโต่งและความผิดปกติของการทำงานของพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส
เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม หลังจากที่ Fitch ได้ปรับลดเครดิตความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จาก AAA ลงมาเหลือ AA+ โดยอ้างว่าสถานะทางการคลังจะลดลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า รวมถึงระบบธรรมาภิบาลที่สั่นคลอนและภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ยังไม่รวมถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครตที่ยังคงเป็นปัญหา
“ดังนั้นความขัดแย้งทางการเมืองเรื่องข้อจำกัดหนี้ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และการแก้ปัญหาปลายเหตุ ล้วนมีผลต่อความเชื่อมั่น” Fitch กล่าว
อ้างอิง:
