วันนี้ (18 มิถุนายน) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ได้กำหนดมาตรการผ่อนคลายการแบ่งโซนพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ดังนี้
1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด 11 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตรัง นครปฐม ปัตตานี เพชรบุรี สงขลา สมุทรสาคร สระบุรี ยะลา และนราธิวาส
3. พื้นที่ควบคุม 9 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ พระนครอยุธยา ระนอง ระยอง ราชบุรี สระแก้ว และสมุทรสงคราม
4. พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด 53 จังหวัดที่เหลือ อย่างไรก็ตาม ทุกพื้นที่ยังต้องคงมาตรการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะออกนอกเคหสถาน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อไปว่า มาตรการที่ปรับตามแต่ละพื้นที่ข้างต้น ยังคงปิดสถานบริการและสถานบันเทิง ผับบาร์ทุกพื้นที่ โดยมาตรการอื่นๆ ดังนี้
1. การจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัว พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามรวมกันมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมสุงสุด ห้ามมากกว่า 100 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามมากกว่า 150 คน และพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด ห้ามมากกว่า 250 คน และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามมากกว่า 300 คน
2. ร้านอาหาร พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด นั่งบริโภคในร้านได้ กรณีมีเครื่องปรับอากาศห้ามนั่งเกิน 50% ของพื้นที่ เปิดได้ถึงเวลา 23.00 น. โดยงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน พื้นที่ควบคุมสูงสุด นั่งในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. งดจำหน่ายและดื่มสุรา พื้นที่ควบคุม ยังงดจำหน่ายและดื่มสุรา ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด เปิดได้ตามปกติ ไม่งดจำหน่ายและดื่มสุรา
3. ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เปิดได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. ห้ามกิจกรรมส่งเสริมการขาย พื้นที่ควบคุมสูงสุด เปิดได้ตามปกติ
4. สถานศึกษา พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามใช้อาคารเพื่อจัดการเรียนการสอน ให้ใช้การเรียนออนไลน์ ส่วนพื้นที่อื่นๆ สามารถใช้ได้
5. สถานที่กลางแจ้งเล่นกีฬา พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หากเป็นพื้นที่ปิดยังให้งดอยู่ ยกเว้นสถานที่เล่นกีฬากลางแจ้งหรืออากาศถ่ายเทได้ดี เปิดได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. แข่งขันโดยไม่มีผู้ชม ส่วนพื้นที่อื่นๆ สามารถเปิดได้โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า