รมว.คลัง ย้ำว่า เป้าหมายทำงบประมาณสมดุลภายใน 10 ปีเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อไม่ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นและเพิ่มความยั่งยืนทางการคลัง แนะพรรคการเมืองควรชี้แจงวิธีหารายได้ในการทำนโยบายต่างๆ ด้วย
วันนี้ (24 มกราคม) อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลดขนาดการขาดดุลงบประมาณ เพื่อทำให้งบประมาณสมดุลภายใน 10 ปี ‘เป็นเรื่องสำคัญ’ โดยเฉพาะในภาวะที่ระดับหนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูง เนื่องจากการขาดดุลงบประมาณต่อไปเรื่อยๆ จะเป็นการเพิ่มภาระในการกู้เงินมาชดเชยหรือปิดหีบงบประมาณ ซึ่งด้านหนึ่งก็เป็นการเพิ่มหนี้สาธารณะด้วย
และเพื่อรักษาเติบโตของเศรษฐกิจ อาคมกล่าวว่า ในด้านของการใช้จ่าย รัฐบาลจะยังคงใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวอยู่ (Expansionary Fiscal Policy) หมายความว่าการใช้งบประมาณในแต่ละปีก็จะยังคงเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณในเวลาเดียวกัน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ ให้ความสำคัญกับวินัยทางการเงิน และลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
อาคมยังกล่าวด้วยว่า ในปีงบประมาณ 2567 รัฐบาลคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเข้ามาประมาณ 2 แสนล้านบาท เนื่องจากประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้น โดยครึ่งหนึ่งของรายได้ที่สามารถจัดเก็บเพิ่มนี้รัฐบาลก็จะนำไปช่วยลดการขาดดุลด้วย
ทั้งนี้ ประเทศไทยเตรียมจะมีการเลือกตั้งทั่วไปภายในปีนี้ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ จะทำให้เป้าหมายการทำนโยบายสมดุลหรือการรัดเข็มขัดทางการคลัง (Fiscal Consolidation) เป็นไปได้ยากขึ้น
เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น อาคมกล่าวว่า พรรคการเมืองต่างๆ ควรดูความเป็นไปได้ในการจัดหาเงินทุน (Financing) และควรชี้แจงแหล่งเงินที่นำมาทำนโยบายต่างๆ เนื่องจากในแต่ละโครงการและมาตรการจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ความท้าทาย ‘ เศรษฐกิจไทย ปี 2566 ’ กับการปรับตัวของภาคธุรกิจ
- ฉวยจังหวะค่าเงินอ่อน ส่องโอกาสลงทุนหุ้นโลก สร้างพอร์ตเติบโตระยะยาว
- ‘ส่วนต่างรายได้’ กับนโยบายรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ