วันนี้ (9 มิถุนายน) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมขับเคลื่อนโครงการ THAI Academy – AI in Education มุ่งยกระดับระบบการศึกษาไทยเข้าสู่ยุคใหม่ วางรากฐานพร้อมสร้างโอกาสการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ให้กับคนไทยทุกช่วงวัย เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาด้วยแพลตฟอร์มและเครื่องมือดิจิทัลแห่งอนาคต
พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายชัดเจนในการสร้างระบบนิเวศ AI ที่เชื่อมโยงกันอย่างบูรณาการ โดยตั้งเป้าผลิตบุคลากรเฉพาะทางด้าน AI จำนวนกว่า 30,000 คน และพัฒนาทักษะการใช้งานในระดับประชาชนทั่วไปให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านคนภายในปี 2570 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยความร่วมมือดังกล่าวจะมีการพัฒนาทักษะ AI แก่บุคลากรครูด้านไอที 5,855 คน โดยถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจต่อไปยังนักเรียนอีกกว่า 430,000 คนทั่วประเทศ
รวมทั้งจัดการอบรมให้แก่บุคลากรครูอาชีวศึกษา จำนวน 1,000 คน และนักเรียนอาชีวะ 82,250 คน ขณะเดียวกันยังได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) บรรจุเนื้อหาจากหลักสูตรพื้นฐานด้าน AI ของไมโครซอฟท์ไว้ในหลักสูตร Al Literacy หรือความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ AI ตามโครงการขับเคลื่อนการสอนปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในโรงเรียน ซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6
“ความร่วมมือในโครงการ AI in Education นี้ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็ม แต่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ยกระดับทั้งผู้เรียนและผู้สอนทั่วประเทศ เราเชื่อว่า AI จะช่วยให้เด็กไทยเข้าถึงทักษะที่พวกเขาสนใจอยากเรียน ส่วนครูเองก็มีเครื่องมือที่พร้อมสนับสนุนให้การสอนมีคุณภาพ ทันสมัย และเท่าเทียม เพื่อให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลาอย่างแท้จริง” รมว.ศธ. กล่าว
แม้จะมีการนำ AI เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน ตนคิดว่าไม่กังวลและไม่ห่วงว่าจะทำให้เด็กขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ เพราะการนำ AI มาใช้เหมือนเป็นเครื่องมือช่วยประกอบการเรียนการสอนเท่านั้น ซึ่งจะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการช่วยเหลือนักเรียนในด้านการทำงานค้นคว้าข้อมูลการเรียน เช่น การออกแบบการเรียนการสอน ดังนั้นตนเชื่อว่าจะมีประโยชน์เพราะเด็กจะมีพื้นฐานการคิดวิเคราะห์ที่ดีอยู่แล้ว
พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวอีกว่า ส่วนการแจกอุปกรณ์เสริมการสอนให้แก่ครูและนักเรียนนั้น ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการแจกได้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2568 นี้อย่างแน่นอน ในกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 600,000 เครื่อง ซึ่งขั้นตอนขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำข้อกำหนดขอบเขต และรายละเอียดของงานแล้ว ส่วนงบดำเนินการของโครงการนี้ในปี 2569 ได้จัดทำคำของบประมาณเพิ่มเติมไปแล้ว