‘พาณิชย์’ เผย ส่งออก พ.ค. ขยายตัว 10.5% มั่นใจทั้งปีโตเกินเป้า 4-5%

กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขการส่งออกเดือนพฤษภาคมยังโตต่อเนื่องที่ 10.5% ขณะที่ภาพรวมการส่งออก 5 เดือนแรกขยายตัวได้ 12.9% มั่นใจทั้งปีโตได้เกินเป้าหมายที่ 4-5%

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศเดือนพฤษภาคม 2565 พบว่า ตัวเลขการส่งออกขยายตัวได้ 10.5% คิดเป็นมูลค่ารวม 2.55 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 8.54 แสนล้านบาท ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัวได้ 12.9% คิดเป็นมูลค่า 1.22 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 4.03 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ หากจำแนกดูตามหมวดสินค้าพบว่า การส่งออกหมวดสินค้าเกษตรขยายตัว 21.5% คิดเป็นมูลค่าราว 1.06 แสนล้านบาท หรือ 3.1 พันล้านดอลลาร์ โดยมีสินค้าที่ขยายตัวได้ดีคือ มันสำปะหลัง ผลไม้สด มังคุดสด สับปะรดสด ทุเรียนสด และข้าว

ขณะที่หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรขยายตัวได้ 32.7% คิดเป็นมูลค่าราว 7.1 หมื่นล้านบาท หรือ 2.1 พันล้านดอลลาร์ โดยมีสินค้าที่ขยายตัวได้ดีคือ น้ำตาลทราย อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารทะเลกระป๋อง และอาหารทะเลแปรรูป

ด้านหมวดสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวได้ 4.2% คิดเป็นมูลค่า 6.27 แสนล้านบาท หรือ 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์ มีรายการสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์และส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ, เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์และแผงวงจรไฟฟ้า

สำหรับตลาดที่ขยายตัวสูง 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
1. เอเชียใต้ +55.7%
2. แคนาดา +45.3%
3. ตะวันออกกลาง +37.9%
4. สหรัฐอเมริกา +29.2%
5. ลาตินอเมริกา +22.5%

6. เกาหลีใต้ +14.5%

7. CLMV +13.1%
8. สหภาพยุโรป +12.8%
9. แอฟริกา +10.2%
10. อาเซียน +8.3%

สำหรับปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยสนับสนุนตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ประกอบด้วย

การส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ เช่น การปรับรูปแบบการขนส่งผลไม้ไทยไปประเทศจีน โดยหันไปใช้เส้นทางทางเรือและอากาศมากขึ้น เพื่อทดแทนการขนส่งทางบกที่มีปัญหาคอขวด และการจัดงาน THAIFEX – Anuga Asia 2022 ที่คาดว่าจะสร้างมูลค่าการค้าได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท
การเร่งรัดใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้า FTA, Mini FTA และ JTC
ความต้องการอาหารจากทั่วโลกที่สูงขึ้น
การที่ภาคการผลิตโลกในภาพรวมยังขยายตัว
การอ่อนค่าของเงินบาทที่มีส่วนช่วยให้การส่งออกการแข่งขันในตลาดโลกแข่งขันได้มากขึ้น

รมว.พาณิชย์ ยังประเมินว่า ปัจจัยบวกในข้างต้นจะมีส่วนช่วยให้แนวโน้มการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปียังเป็นบวกต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่าภาพรวมการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวได้เกินเป้าหมายที่วางเอาไว้ในช่วงต้นปีที่ 4-5% อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงที่กระทรวงยังต้องจับตาดูคือ ราคาวัตถุดิบที่ไทยต้องนำเข้า เช่น ปุ๋ยและอาหารสัตว์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต

“เรายังมั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้จะเป็นบวกและจะโตได้เกินเป้า ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างเตรียมแผนเชิงรุกและเชิงลึก เพื่อผลักดันการส่งออกในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะมีทั้งการเพิ่มมูลค่าในตลาดเดิมและเติมในตลาดใหม่” จุรินทร์กล่าว

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH