ฟุตบาธบริเวณเกาะพญาไท ริมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถูกแปลงสภาพเป็นจุดขาย ‘หน้ากากอนามัย’ ที่เวลานี้ขาดตลาดอย่างหนัก ทำให้กระทรวงพาณิชย์ต้องออกมาตรการในการกระจายสินค้าดังกล่าวมาถึงมือประชาชน ด้วยการกำหนดจุดขายรอบกรุงเทพมหานคร ดำเนินการมาตั้งแต่ 5 มีนาคม และจะสิ้นสุดในวันที่ 7 มีนาคม ประชาชนที่ทราบข่าวต่างมาเข้าคิวรอคอยซื้อจำนวนมากเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนเปิดจำหน่าย จนต้องบริหารจัดการคิวไม่ให้กระทบต่อผู้สัญจรทางเท้า และจำกัดการซื้อเพียงคนละ 1 แพ็กเท่านั้น ซึ่งพบว่าขายหมดในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ขณะที่สินค้าที่นำมาจำหน่ายวันนี้มียอดเพียง 600 แพ็ก
ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเช็กสต๊อกหน้ากากอนามัยภายในประเทศ โดยจัดลำดับความสำคัญด้วยการกระจายไปยังโรงพยาบาลเพื่อบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยก่อน ส่วนที่เหลือประมาณ 500,000 ชิ้นกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงอื่น รวมทั้งประชาชนทั้งประเทศ 60 ล้านคน เช่น ร้านขายยาหรือสายการบิน เช่น การบินไทย ร้านค้าส่ง ค้าปลีกต่างๆ รวมทั้งร้านธงฟ้าและอื่นๆ เป็นต้น
โดยมีการจัดตั้ง ‘ศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย’ ซึ่งจะบริหารจัดการหน้ากากร่วมกันทุกวัน เพื่อตรวจสอบการกระจายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดย 700,000 ชิ้นแรกจะเร่งไปเติมสต๊อกที่ขาดไปของโรงพยาบาลก่อน และจากนั้นจะได้บริหารจัดการอีกที ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีความเห็นชอบแล้วที่จะให้ขายหน้ากากอนามัยที่ราคา 2.50 บาท โดยต้นทุนส่วนเกินรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระเอง ทำให้ 1 แพ็กที่ประชาชนซื้อในราคา 10 บาทจะได้หน้ากากอนามัยคนละ 4 ชิ้น
