ลองดูรูปปกอัลบั้ม มันคือยุ้งฉางอายุเกือบ 200 ปี พวกเขาซื้อมันเพื่อเป็นสถานที่ทำอัลบั้มใหม่ชุดนี้ และมันก็เป็นอัลบั้มที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ The National

     เรามาเริ่มทำความรู้จักกับวงดนตรีวงนี้กันก่อน Aaron Dessner เจ้าของยุ้งฉางแห่งนี้ เป็นมือกีตาร์ของวง แต่วงนี้มีกีตาร์ 2 ตัว กีตาร์อีกตัวเล่นโดย Bryce Dessner ซึ่งเป็นฝาแฝด คือถ้าดูคอนเสิร์ตจะหลอนมาก เพราะหน้าตารูปร่างของทั้ง 2 คนเหมือนกันเป๊ะ ยืนบนเวทีคนละข้าง บางทีก็เล่นคีย์บอร์ด ซึ่งก็เล่นได้ทั้ง 2 คนอีก เดี๋ยวเราค่อยมาพูดถึงความวิเศษของเสียงกีตาร์กัน สมาชิกของวงอีกคู่หนึ่งก็เป็นพี่น้องกัน Scott Devendorf กับ Bryan Devendorf คนแรกเล่นเบส อีกคนหวดกลอง หวดหนักมากด้วย พลังสถิตย์อยู่คู่ทั้งสอง เติมเต็มด้วยเสียงร้องของ Matt Berninger เสียงออกทุ้มต่ำ มีความเป็นร็อกสตาร์ใส่สูทผูกไทใส่แว่นทุกครั้งบนเวที เนื้อเพลงทั้งหมดเขียนโดยเขาและภรรยาของเขา

     ภาคดนตรีพี่น้องฝาแฝดรับบทบาท พวกเขามาจากซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ แต่ฟอร์มวงกันที่นิวยอร์กตั้งแต่ปี 1999 ช่วงๆ เดียวกับที่นิวยอร์กมี The Strokes และวง Interpol วงหลังนี่เรียกได้ว่าได้อิทธิพลกันมาเลย 2 อัลบั้มแรกไม่มีอะไรน่าจดจำ มาดังกันตั้งแต่อัลบั้มที่ 3 Alligator ในปี 2005 และ Boxer ปี 2007 (ในเมืองไทยซีดีมีปั๊มขายเริ่มตั้งแต่อัลบั้มนี้เป็นต้นมา) อัลบั้มก่อนหน้านี้คือ Trouble Will Find Me ออกในปี 2013 หลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายไปมีครอบครัว แยกย้ายกันไป 5 คน 5 เมือง จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว

     ยุ้งฉางนำพาพวกเขาและครอบครัวมารวมกันใหม่ กินนอน อัดเพลง และโดดบึงกันที่นั่น การทำห้องอัดที่เป็นส่วนตัว ทำให้พวกเขาควบคุมและกำหนดรายละเอียดของเสียงเพลงได้ดีกว่าที่เคยทำมา

     Sleep Well Beast มีเนื้อเพลงหม่น บนทำนองที่หม่นกว่า มันเป็นลายเซ็นของทางวงไปแล้วที่ทำอัลบั้มดาร์ก มืดมิดสนิทนาน เพลงของพวกเขาเหมือนมีวง Interpol เป็นรุ่นพี่และมีวง White Lies เป็นรุ่นน้อง วงอื่นๆ ที่ฟังแล้วนึกถึงกันได้ก็มี Editors, Muse, Bloc Party, Kings Of Leon, The Horrors, Pulp, The Killers และ Arcade Fires นอกจากนั้นเสียงที่ทุ้มต่ำยังชวนคิดถึง Tindersticks, Nick Cave & The Bad Seeds และ Leonard Cohen ด้วย

     Day I Die คือเพลงที่มันที่สุดในอัลบั้ม มีกีตาร์ที่เกรี้ยวกราด กลองสาดเหมือนพร้อมจะลาลับ บนเนื้อเพลงของความไม่เข้าใจกันในชีวิตคู่ เพลงทั้งอัลบั้มออกมาเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่มันถูกเขียนโดยคู่รักคู่หนึ่ง

     I don’t need you, I don’t need you.

     Besides I barely ever see you anymore.

     And when I do it feels you’re only halfway there.

     Young mothers love me even ghosts of girlfriends call from Cleveland.

     They will meet me anytime and anywhere.

                                                    -Day I Die

     กีตาร์ในอัลบั้มมีความเด่นมาก โดยเฉพาะเพลง Turtleneck ตัวหนึ่งสับคอร์ด อีกตัวลีดแปลกๆ เหมือน Improvise ไปเรื่อย อีกเพลงที่เสียงกีตาร์แบบนี้ปรากฏให้เห็นคือเพลงช้าปิดท้ายอัลบั้ม Sleep Well Beast เป็นเพลงที่ชวนนึกถึง Radiohead ยุคหลังอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าจะเอาแบบเสียงกีตาร์เท่มาก ๆ ต้องเพลง The System Only Dreams In Total Darkness

     We said we’ve never let anyone in.

     We said we’d only die of lonely secrets.

                                      -The System Only Dreams In Total Darkness

     แต่เพลงในอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่เป็นเพลงช้า ลากลงลึกสู่ห้วงนรกานต์ด้วยเสียงเปียโนและกีตาร์ กัดกินลึกมากในทำนอง บนเนื้อเพลงที่บ่งบอกว่าไม่รู้จะไปทางไหนดี พวกเขาวาง 3 เพลงนี้ต่อกันได้ดีมาก Guilty Party ต่อด้วย Carin At The Liquor Store และ Dark Side Of The Gym ไวโอลินที่เติมเข้ามาในตอนท้ายมีความดาร์กในระดับสาหัส

     I say your name.

     I say I’m sorry.

     I know it’s not working.

     I’m no holiday.

     It’s nobody’s fault.

     No guilty party.

                     -Guilty Party

     So, blame it on me.
     I really don’t care.
     It’s a foregone conclusion.

                      -Carin At The Liquor Store

     ได้เวลาดื่มด่ำกับความดาร์ก อัลบั้มนี้น่าจะติด 1 ใน 10 อัลบั้มร็อกยอดเยี่ยมของปีนี้

     เพลงแนะนำ ‘Nobody Else Will Be There’ (1) ‘Day I Die’ (2) ‘The System Only Dreams In Total Darkness’ (4) ‘Turtleneck’ (6) ‘Guilty Party’ (9) ‘Dark Side Of The Gym’ (11)

     ศิลปิน The National

     อัลบั้ม Sleep Well Beast

     สังกัด 4AD