มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เผยยอดขาย 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ ไม่ถึง 2 แสนคัน คาดการเมืองและหนี้ครัวเรือนไทยทำชะลอการซื้อ แต่ยังยืนยันไร้กังวล เตรียมแนะนำรถยนต์ไฮบริดในปี 2567 ใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกภูมิภาคอาเซียน พร้อมเปิดตัวรถกระบะขนาด 1 ตัน ‘ALL-NEW TRITON’ ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย นำร่องเปิดราคา 8 รุ่นย่อย พร้อมเตรียมขายญี่ปุ่นต้นปีหน้า มั่นใจเพิ่มสัดส่วนขึ้น 2 หลักในตลาดรถกระบะ
เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทยว่า ช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 (เมษายน 2566 – มีนาคม 2567) มียอดขายไม่ถึง 2 แสนคัน ซึ่งต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจัยที่ทำให้เกิดชะลอตัวคือ สถานการณ์การเมืองและหนี้ครัวเรือนที่มีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยและขั้นตอนการผ่านสินเชื่อจากสถาบันการเงินยากขึ้น แต่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นระยะสั้น ไม่ใช่วิกฤต แต่เป็นช่วงปรับตัวของตลาดในภาวะปกติ ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จึงมองว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์ปีนี้ ประเมินไว้ว่าจะสามารถทำได้ 8.7 แสนคัน
ขณะเดียวกันกลุ่มรถยนต์นั่งที่เข้าร่วมรับสิทธิ์โครงการส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงานระยะที่ 2 (อีโคคาร์ เฟส 2) ที่กำลังจะสิ้นสุดนั้น ยังคงผลิตจากโรงงานในไทยและจำหน่ายต่อ แต่บริษัทได้มีการเจรจากับทาง BOI ในการขอรับการส่งเสริมการผลิตรถยนต์กลุ่มพลังงานไฟฟ้า xEV แบบไฮบริด ซึ่งแผนดังกล่าวจะเริ่มทันทีที่มาตรการส่งเสริมโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 สิ้นสุดลง ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์กลุ่ม xEV และส่งออกภูมิภาคอาเซียนในปี 2567
ด้านกลุ่มรถยนต์ EV แม้เทคโนโลยีพื้นฐานบริษัทจะสามารถทำทุกรูปแบบ แต่องค์ประกอบสำคัญคือ ความต้องการของลูกค้าและรูปแบบการใช้งาน หากเราสามารถจับความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศได้ จะแนะนำรถยนต์และรูปแบบพลังงานให้เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้าและประเทศที่จำหน่ายต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ การเปิดตัวรถกระบะ ALL-NEW TRITON มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เลือกประเทศไทยเป็นที่แรกในโลกในการจำหน่าย เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคอาเซียนและเป็นตลาดใหญ่ของมิตซูบิชิด้วยยอดขายรวมกว่า 30% ในภูมิภาคเมื่อเทียบกับยอดขายทั่วโลก และรถกระบะมียอดขายทั่วโลกนับตั้งแต่เปิดตัวมากกว่า 5.6 ล้านคันใน 150 ประเทศทั่วโลก หรือสัดส่วน 50% ของยอดขายรวมของบริษัท
“เชื่อมั่นว่าการแนะนำ ALL-NEW TRITON จะสามารถเพิ่มสัดส่วนของตลาดรถกระบะในประเทศไทย 2 หลักอย่างแน่นอน ด้านกำลังการผลิตได้วางสัดส่วนสำหรับในประเทศ 20% ส่งออกต่างประเทศ 80% ซึ่งได้เตรียมกำลังการผลิตไว้ 2 แสนคันต่อปี และมีแผนจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่นในรอบ 12 ปีภายในต้นปี 2567”
สำหรับรถกระบะ ALL-NEW TRITON นับเป็นเจเนอเรชันที่ 6 ของรถกระบะมิตซูบิชิที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดในรอบ 9 ปี ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ขนาด 2.4 ลิตร 184 แรงม้า ที่ให้ความแรง ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่ปล่อยไอเสียน้อยลง เฟรมใหม่ที่ออกแบบให้มีความแข็งแรง ทนทาน รองรับงานบรรทุกและลากจูงมากถึง 3.5 ตัน ทั้งนี้ ได้นำร่องจำหน่าย 2 ตัวถัง คือ Single Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท และ Double Cab ยกสูง ราคาเริ่มต้น 820,000 บาท ส่วนรุ่นย่อยและตัวถังอื่นๆ จะทยอยเปิดตัวให้ครบภายในปีงบประมาณ 2566